วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ดาวจันทร์ (๒) ราชินีแห่งดวงดาว

ดาวจันทร์ ๒ ราชินีแห่งดวงดาว

ธรรมชาติ.....เป็นธาตุดิน อันอุดมสมบูรณ์ ดินชั้นดี ดินที่ซึ่งมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา เป็นดินซึ่งก่อให้เกิดพืชพันธุ์ ผัก ผลไม้ และอื่น ๆ อันอุดมสมบูรณ์ โดยมีความแตกต่างกับธาตุดินพฤหัสบดี คือเป็นดินที่แข็งและแห้งแล้ง ขาดน้ำหล่อเลี้ยง ดาวจันทร์โดยธรรมชาติแล้วนั้น เป็นดาวศุภเคราะห์ และเป็นดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นบริวารดวงเดียวของโลกที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ฉะนั้นควรที่ศึกษาและจดจำไว้ให้ดีนะครับ ในเรื่องของความหมาย และรายละเอียด สาเหตุดังที่ได้กล่าวแล้วว่าเป็นบริวารที่ใกล้โลกมนุษย์ที่สุด ฉะนั้นเป็นที่แน่นอนย่อมที่จะมีอิทธิพลต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก

ด้านที่ดี.....แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน นุ่นนวล ใจคอบริสุทธิ์ ดูดีมีเสน่ห์ ไม่ชอบขัดอกขัดใจใคร หรือผู้ใด เด่นในเรื่องของความสวยงาม ความคิดฝัน ความอ่อนไหว การที่มองโลกในแง่ที่ดี การใส่ใจ และการบริการดูแล การให้ความช่วยเหลือ การเข้าใจในความรู้สึก การมีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมโลก เอาใจใส่ในความทุกข์ และความสุขของผู้อื่นได้ดี

ด้านที่เสีย.....ความอ่อนไหว อ่อนแอ หูเบา เชื่อคนง่าย ตื่นตกใจง่าย ขลาดกลัว มีลักษณะที่เหมือนคนเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ ใจน้อยขี้ง่อน น้ำตาร่วงง่าย อารมณ์เร็วแปรเปลี่ยนกลับไปกลับมาไม่แน่นอน ชอบคิดเพ้อฝัน แต่ไม่ทำความคิดที่ได้จินตนาการไว้ให้ประสบความสำเร็จ คือการที่คิดได้ แต่ไม่ยอมทำเสียที ( เป็นคนที่ชอบสร้างวิมานในอากาศ )เมตตากรุณษจนกระทั่งต้องตกอยู่ในความเดือดร้อน ประเภททำคุณคนไม่ขึ้น จิตใจขาดความมั่นคง โลเลใจได้ง่าย ไม่แน่นอนกับใคร เอาใจยาก คิดอย่างทำอย่าง คิดเกินขอบเขตทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นยังไม่เกิด ถือเป็นประเภทกระต่ายตื่นตูม ตีตนไปก่อนไข้

บุคลิกภาพ.....ดูแล้วสุภาพเรียบร้อย น่ารักน่าเอ็นดู ดูดี รักความสะอาด มีอนามัยที่ดี ทำการสิ่งใดด้วยความเรียบร้อย จากการที่ตัวกระผมได้สังเกตมาแล้วนั้น ดาวจันทร์ ๒ จะมีบุคลิกเป็นผู้หญิงสาวโดยแท้ อ่อนโยนยิ้มหวาน ตาวาวมีความสดใสอยู่ในดวงตา มีสกุลและมารยาทที่ดีสมเป็นกุลสตรี และถ้าเป็นชายก้จะดูมีอริยาบถ หรืออาจจะแสดงผลออกมาในด้านการแต่งตัว การคุย ท่าที การนั่ง การเดิน ออกจะดูสุภาพนิ่ม ๆ ดูดี ดูเนี๊ยบ ๆ ในทุกจังหวะที่ได้ดำเนินไป

ความหมายโดยทั่วไปของดาวจันทร์ ๒

๑. คำกลอน.....ทายรูปร่าง และจริตให้ทายจันทร์ ๒ เนื่องจากดาวจันทร์ เป็นดาวแห่งอารมณ์และความ
อ่อนไหวได้ง่าย มีจริตที่ปรวนแปรได้ง่าย และเร็วที่สุด เมื่อเทียบกับดาวต่าง ๆ แล้ว คำว่า..รูปจริตให้ทายจันทร์ ๒ ดังคำกลอนที่ครูท่านกล่าวไว้ไม่ผิดจริง ๆ ครับ

๒. อุปนิสัย.....สุภาพ อ่อนโยน ดูเรียบร้อย จิตใจงาม รักสวยรักงาม รักง่ายหน่ายเร็ว น้ำตาร่วงง่าย มีเมตตาธรรม ขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ใจน้อย สะเทือนอารมณ์ได้ง่าย อารมณ์เปลี่ยนแปลงได้เร็ว ฝันเฟื่อง โลเลขาดความเชื่อมั่น มีอารมณ์ความนึกฝันไปตามสภาวะแวดล้อมไม่แน่นอน

๓. สิ่งของ.....ของเหลว ของบอบบาง ของนุ่มนิ่ม ของเบาบาง สิ่งโปร่งแสง เช่น แก้ว กระดาษ น้ำ ดาวจันทร์เป็นดาวที่อ่อนโยนอ่อนไหวได้ง่าย อ่อนนุ่มในด้านจิตใจ เพราะฉะนั้นถ้าจะว่าในเรื่องของสิ่งของแล้ว นับว่าดาวจันทร์นั้นเป็นสิ่งของที่อ่อนนุ่มบอบบาง สามารถแตกหักเสียหายได้ง่าย เช่น กระดาษ สำลี กระจกเงา แก้วน้ำ ภาชนะที่เป็นแก้ว ผ้าไหม เส้นใย ยานพาหนะ รถ เรือ แพ เป็นต้น...

๔. สีประจำดาว.....สีขาว สีเหลือง สีครีม สีออกนวล ๆ สีที่สว่างนวล ๆ

๕. อวัยวะ.....ได้แก่ ระบบน้ำ ๆ ระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย กระเพาะอาหาร ต่อมต่าง ๆ น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเลี้ยงข้อกระดูก การรับรส ระบบขับถ่าย ไต ดี เต้านม หน้าอก น้ำย่อย เลือดลม ผิวพรรณ รังไข่ ระบบประสาท ดวงตา

๖. โรคภัย.....โรคกระเพาะอาหาร ระบบน้ำย่อย ระบบทางเดินอาหาร รังไข่ ประจำเดือน เบาหวาน ซีส ต่อมน้ำเหลือง เต้านม ระบบฮอร์โมนผิดปกติ ระบบของเหลวในร่างกายผิดปกติ ระบบต่อมต่าง ๆ ที่ทำงานผิดปกติ จึงทำให้มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็ง ภูมิแพ้ เอดส์ เบาหวาน หรือโรคต้อตา ต้อกระจก ต้อหิน ฯ...

๗. เพศ.....ได้แก่ เพศหญิง เพราะดาวจันทร์ ๒ ถือว่าเป็นดาวศุภเคราะห์ที่มีภาวะที่นุ่มนวล อ่อนหวาน มีจริตมารยา พระอิศวรท่านได้สร้างพระจันทร์เทวามาจากนางฟ้า นางสวรรค์ จึงเป็นเพศหญิง

๘. อาชีพการงาน.....ได้แก่ งานที่เกี่ยวกับสตรี และเด็ก เป็นงานที่เกี่ยวกับการสังคมทั้งหลาย การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก การทำงานเพื่อสังคม และส่วนร่วม ข้าราชการ ทหารเรือ นักสังคมสงเคราะห์ สตรีที่มียศบรรดาศักดิ์ นางพยาบาล ผดุงครรภ์ บุรุษพยาบาล โรงพยาบาลหญิง โรงพยาบาลเด็ก พี่เลี้ยงเด็ก อาชีพบริการ พนักงานต้อนรับ พนังานขับรถ รวมทั้งผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับ การท่องเที่ยว ยานพาหนะ รถ เรือ แพ กิจการทางน้ำ โรงน้ำแข็ง ร้านขายเครื่องดื่ม โรงงานผลิตน้ำดื่ม การกระปา การขนส่งต่าง ๆ การเดินเรือ การประมง ฯลฯ...

๙. อักษร.....มีอักษรคือ ก ข ฃ ฅ ค ฆ ง ขอให้จดจำไว้ว่าตัวอักษรต่าง ๆ ของดาวจันทร์ ๒ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของพยัญชนะไทย ตั้งแต่ตัวแรก คือ กอไก่ ไปจนถึง งองู นะครับคุณพี่

๑๐. ธาตุ.....เป็น ธาตุดิน และยังครองตำแหน่งต้นของแม่ธาตุดิน อันเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ ดินที่ชุ่มน้ำ ดินชนิดที่ดี ที่สามารถเป็นบ่อเกิดให้กับพืชพันธุ์ ผลหมากรากไม้ทั้งมวลให้ได้เจริญเติบโต ถือว่าเป็นดินที่ให้ชีวิต และแหล่งพักพิงอาศัยในการคงอยู่ของมนุษย์ และหมู่สัตว์ต่าง ๆ นา ๆ ชนิด เช่น..ดินที่ลุ่มเหมาะแก่การเพราะปลูกพืชพันธุ์ การเลี้ยงสัตว์ การที่อยู่อาศัย ดินปากแม่น้ำ ดินเลน ฯลฯ..

๑๑. สัญลักษณ์.....ทางโหราศาสตร์ไทยใช้ตัวเลขไทย คือ ๒

๑๒. ทิศทาง.....ทิศตะวันออก หรือทิศบรูพา ตามหลักของไทย

๑๓. กำลังดาว.....มีกำลังดาวเท่ากับ ๑๕ เพราะพระจันทร์เทวาสร้างขึ้นมาจากนางฟ้า ๑๕ นาง

๑๔. สัญชาติ.....เป็นชนชาติที่มีผิวขาว ผิวขาวเหลือง เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม ( เดิมเป็นฝรั่ง )

๑๕. คู่มิตร.....ถือเป็นคู่มิตรกับดาว พุธ ๔ เพราะชาติเวรได้กล่าวไว้ว่า ดาวพุธได้เกิดเป็นสุนัขเข้าช่วยเหลือ ดาวจันทร์ ๒ จากอันธพาล ( เจ้าหนี้ ) คือ ดาวราหู ๘

๑๖. คู่ธาตุ.....ถือเป็นคู่ธาตุกับดาวพฤหัสบดี ๕ เพราะเป็นธาตุดินด้วยกันทั้งคู่ครับ ต่างกันที่เพียงแต่ว่าเป็นดินอุดมสมบูรณ์ กับดินที่แห้งแล้ง ( พฤหัส ๕ เป็นดินแข็ง ที่แห้งแล้ง )

๑๗. คู่สมพล.....เป็นคู่สมพลกับดาวราหู ๘ เพราะดาวจันทร์ มีกำลังเท่ากับ
๑๕ ส่วนดาวราหู มีกำลังเท่ากับ ๑๒ คู่ดาวใดที่มีกำลังรวมกันได้ ๒๗ ดาวคู่นั้นจึงจะถือว่าเป็นคู่สมพลครับ..

๑๘. คู่ศัตรู.....เป็นคู่ศัตรูกับดาวพฤหัสบดี ๕ ตามดาวคู่ชาติเวร ที่มีเล่ากันมาแต่โบราณ ที่ถือว่าเป็นคู่พ่อ – ลูก ที่ลูกนั้นโกรธพ่อ งอนพ่อที่พ่อไม่เข้าข้างตัวไปเข้าข้างคนอื่นแทน ( ไม่ถือว่ารุนแรง )

๑๙. ภาวะ.....เป็นดาวศุภเคราะห์ ศุภะ คือคุณงามความดี สังเกตได้จากตัวเลขจะต้องเป็นเลข คู่ ยกเว้นเพียงดาว ราหู เท่านั้น หรือให้จำในช่องกลางของตารางทักษาอันได้แก่..๒ ๔ ๕ ๖ ครับ

๒๐. พระประจำวัน.....เป็นปางห้ามญาติ ( เป็นองค์ยืนที่ยกพระหัตถ์ข้างเดียว )

๒๑. เลขเบอร์.....เลขประจำคือเลข ๒ , ๑๑ , ๒๙ , ๓๘ , ๔๗ , ๕๖ , ๖๕ , ๗๔ , ๘๓ , ๙๒ , ๑๐๑ , ๑๑๐ , ๑๑๙ , ๑๒๘ เป็นต้น...

๒๒. บุคคล.....ได้แก่ สตรี และเด็ก สตรีที่มียศบรรดาศักดิ์ ผู้หญิงที่เป็นนักปกครอง พระราชินี นางพยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ นักประพันธ์ ชาวประมง แม่ค้า หรือตัวบุคคลที่ประกอบการเพื่อส่วนรวม เพื่อสังคม เป็นบุคคลประเภทชอบการบริการผู้อื่น ใส่ใจผู้อื่น ฯลฯ..

๒๓. สถานที่.....โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ ท่าเรือ ทะเล แม่น้ำ คลินิค สำนัก มูลนิธิ ตลาด สถานสงเคราะห์เด็กต่าง ๆ บ้านหรือสถานที่ใกล้น้ำ บ่อน้ำ บึง หนอง คลอง ห้วย ร้านขายเครื่องดื่ม โรงงานทำน้ำแข็ง ร้านขายสัตว์น้ำ คณะประมง คณะพยาบาลศาสตร์ บริษัททัวร์ต่าง ๆ อู่ต่อเรือ ฯลฯ..

๒๔. รูปร่าง.....ผิวขาว หรือผิวขาวเหลือง แก้มใหญ่ อวบ ๆ หน้าผากนูนกลม ตาสวย มีแววหยาดเยิ้ม

๒๕. อัญมณี.....เพชร ไข่มุข โอปอล์ ไม่ว่าจะเป็นอัญมณี หรืออาภรณ์ชนิดใดก็ตามจะต้องออก สีขาว สีเหลือง สีนวล ที่สามารถมองดูแล้วสบายตา อบอุ่นน่าจับต้อง

๒๖. รสชาติ.....รสเค็ม ๆ รสกร่อย ๆ เช่น น้ำทะเล น้ำปากแม่น้ำที่ติดทะเล

ดาวอาทิตย์ (๑) ราชาแห่งดวงดาว

ดาวอาทิตย์ ๑ ราชาแห่งดวงดาว

ธรรมชาติ.....เป็นธาตุไฟอันรุ่งโรจน์โชติช่วง รุนแรง ฉับพลัน เป็นไฟอันสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ธรรมชาติของดวงอาทิตย์นั้นย่อมแข็งแกร่งเข้มแข็ง จริงจัง ร้อน ว่องไว เฉียบขาด กล้าแกร่ง ทำลายล้างได้ถ้าร่วมกับดาวที่เป็นคู่ศัตรูครับ

ด้านที่ดี.....ความมีเกียรติ มีวาสนา รักชื่อเสียง และศักดิ์ศรี มีอำนาจมากบารมี มักที่จะมีจิตใจใฝ่สูง มีทิฐิมานะดี เอื้ออารี ผู้ใหญ่เมตตา เจรจาอาจหาญ โกรธง่ายหายเร็ว ทำคุญคนไม่ขึ้น ได้ดีมีหลักฐานด้วยการสร้างตนเอง ทุกข์ใจเพราะชอบอาสาผู้อื่น เจ้าชู้แต่เกรงกลัวคู่ มีความเชื่อมั่นสูง แข็งแกร่ง และตรงไปตรงมา รักอิสระ เจ้าระเบียบ มีความรับผิดชอบสูง เป็นคนที่เปิดเผย เด่นทางอาชีพราชการ เป็นผู้นำที่ดี รักความก้าวหน้าและมีความทะเยอทะยานที่สูง รวมทั้งมีลักษณะของความงามทุก ๆ เวลา นั่ง เดิน ยืน หรือนอน ( โปรดเปรียบเทียบกับความเป็นเจ้าป่าของราชสีห์ทั้ง ๖ ตัวที่กำเนิดเป็นพระอาทิตย์เทวา )

ด้านที่เสีย.....มีความหยิ่งจองหอง ถือดีถือตัว ใจร้อนไม่ฟังใครห้ามปราม รักสบายจนขี้เกียจได้ง่าย หัวหมอ อับวาสนาถ้าทำงานทางราชการ หลงตัวเอง ก้าวร้าวเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ใฝ่สูง ไม่ชอบทำงาน ไม่ชอบการบังคับ หรือรับบัญชาจากใคร ขี้คุยสร้างภาพ อวดตัว บางครั้งชอบยกตนข่มท่าน ตัวกูดี ตัวกูเด่น ตัวกูเก่ง ตัวกูไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้นทั้งนั้นครับ

บุคลิกภาพ.....ความมีสง่าผ่าเผย ดูภูมิฐาน น่าเคารพนับถือ น่ายำเกรงยิ่งนัก มองดูแล้วมีอำนาจ และต้องลักษณะองอาจดูดีด้วย ไม่ชอบออกแรงทำงานที่ไม่ถูกต้อง หรือขัดใจตัว ขัดต่อความรู้สึกความถูกต้องที่ควรจะเป็น ทำอะไรจะต้องดูเนียบดูดีในทุก ๆ อย่างครับ

ความหมายโดยทั่วไปของดาวอาทิตย์ ๑

๑. คำกลอน.....ทายยศศักดิ์ให้ทายอาทิตย์ ๑ ( สร้างจากราชสีห์ ) ผู้ที่เป็นเจ้าป่าตามตำนาน ได้สร้างโดยพระอิศวรผู้ที่เป็นเจ้าแห่งเทวราชทั้งหลายทั้งปวงครับ

๒. อุปนิสัย.....เป็นผู้ที่รักอิสระเสรีเป็นที่สุด รักชื่อเสียง ใจคอกว้างขวาง โอบอ้อมอารี ดูดีมีสง่าผ่าเผย เปิดเผยตรงไปตรงมา เชื่อมั่นในตนเอง บางครั้งก็ใจร้อนได้ รุนแรง ใจเร็ว ทะเยอทะยานรักอนาคต เป็นผู้นำโดยนิสัย มีความกระตือรือร้นสูง รักความยุติธรรม ไม่ชอบง้อใคร มีความเป็นตัวของตัวเอง มีความตื่นตัวอยู่เสมอในทุกภาวะของเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นก็ได้ครับ ( อุปนิสัยของดาวอาทิตย์นี้ โปรดสังเกตจากลักษณะนิสัยของราชสีห์ก็ได้ เพราะท่านครูโหราจารย์ ท่านได้ยกเปรียบเทียบไว้ให้พิจารณา )

๓. สิ่งของ.....สิ่งของที่มีแสงในตัวเอง เช่น หลอดไฟ กระแสไฟ เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นสิ่งของที่มีพลังงานในตัวเองอีกด้วย เช่น ถ่ายไฟฉาย กระแสแม่เหล็ก ตลอดจนแหล่งความร้อนทั้งหลาย ถ่ายไฟที่อยู่ในเตา แว่นตา เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คฤหาสน์ บ้านที่เด่นสง่า บ้านที่มีแสงสว่างมาก ๆ บ้านที่หรูหราดูสวยงามมากค่า เครื่องประดับตกแต่งที่มีราคาแพง เป็นต้น...

๔. สีประจำดวงดาว.....สีแดง สีเลือดหมู แดงสด แดงทับทิม แดงอิฐที่นำมาก่อสร้างก็ได้ หรือจะแดงเข้ม แดงอ่อนก็ไม่ผิด แต่ขอให้มีสีแดงเป็นสีหลักเท่านั้นเองครับ

๕. อวัยวะ.....ส่วนที่เป็นอวัยวะของร่างกายนั้น ขอให้นึกคิดถึงคำว่าแสงสว่างเข้าไว้นะครับ โดยถ้าจะเปรียบเทียบแล้วก็ได้แก่... ดวงตา นั้นเองครับ ส่วนเรื่องของพลังงานแล้วสิ่งที่ให้พลังงาน แห่งร่างกายนี้ที่อยู่ได้ก็เพราะการที่ทำให้มีลมหายใจได้นั้นก็คือ... หัวใจ อีกทั้งยังได้หมายถึงสีแดงด้วยครับ นั้นก็คือ... เลือด ที่นำและขับเคลื่อนลำเลียงโดยระบบสูบฉีดโลหิต หลอดเลือด แหล่งความร้อน ความอบอุ่นของร่างกาย ระบบการนำประสาททั้งหมด และ กระดูกสันหลังครับ

๖. โรคภัย.....โรคที่เกี่ยวกับสายตา ดวงตา เลือด เลือดลม เลือดจาง เลือดไม่แข็งตัว การติดเชื้อในกระแสเลือด ความผิดปกติในเม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดง ความดันสูง หรือความดันต่ำก็ได้ทั้งนั้นครับ ทั้งยังเกี่ยวกับโรคหัวใจอีกด้วย เช่น โรคหัวใจโต หัวใจล้มเหลว หัวใจรั่ว กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง เส้นเลือดอุดตัน กระดูกสันหลังมีปัญหา ความเคลียด ระบบนำประสาทต่าง ๆ อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ...ครับ

๗. เพศ.....ได้แก่เพศชาย เพราะดาวอาทิตย์ ๑ ถือว่าเป็นเลขดาวบาปพระเคราะห์ ที่แสดงออกในความเข้มแข็ง หนักแน่น ถือเกียรติ ไม่ยอมอะไรง่าย ๆ และยังบอกถึงความเป็นผู้นำ ที่เราเรียกกันว่า พระราชา อีกด้วยครับ

๘. อาชีพการงาน.....ได้แก่งานที่คอยรับใช้พระราชา หรือพระมหากษัตริย์นั้นก็คือ...อาชีพข้าราชการ การรับใช้ชาติ และแผ่นดิน งานที่มีเกียรติทั้งหลาย งานที่มีตำแหน่งที่ดีเด่น หรืองานส่วนตัวที่เป็นผู้ลงทุนเอง ทำเอง งานที่อิสระ ห้างร้าน บริษัท แต่ต้องเป็นงานที่มีหน้ามีตา มีการยอมรับและดูดี จัดอยู่ในขั้นที่สามารถเลือกที่จะทำงาน ดังนี้...ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักการเมือง คหบดี เจ้าของกิจการที่มีขนาดใหญ่ พนักงานบริษัทต่าง ๆ ห้างร้านใหญ่ ๆ แต่ต้องเป็นผู้นำ หรือผู้บริหาร เจ้าของร้านทอง เจ้าของร้านเพชร พลอย อัญมณี รวมทั้งผู้ที่ประกอบการกิจการที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า วัตถุที่มีแสง มีพลังงาน เทคโนโลยีสมัยใหม่ ฯลฯ...ครับ

๙. อักษร.....ได้แก่อักษร อ และ ตัวสระทั้งหลายที่มีอยู่ในภาษาไทย ยกเว้นวรรณยุกต์ ได้แก่ ตัวการันต์ ( อ์ ) ไม้หันอากาศ ( อั ) ที่เป็นอักษรลดรูป ลดเสียงครับ

๑๐. ธาตุ.....เป็นธาตุไฟ และยังเป็นต้นของแม่ธาตุ ไฟ อันร้อนแรง สามารถเผาผลาญสิ่งทั้งปวงได้อย่างรวดเร็ว ฉับพลัน รุนแรง รุ่งโรจน์ที่สุด นับเป็นไฟที่เกิดจากแหล่งกำเนิดอันยิ่งใหญ่ เช่นดวงอาทิตย์ เป็นต้น

๑๑. สัญลักษณ์.....ทางโหราศาสตร์ไทยใช้ตัวเลขไทย คือ.....๑

๑๒. ทิศประจำ.....ได้แก่ทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศ อีสาน ตามหลักของไทยครับ

๑๓. สัญชาติ.....เป็นชาติผิวแดง บ้างก็ผิวดำก็มี มีจมูกโด่ง ซึ่งตำราทั่วไปส่วนมากได้ระบุไว้เลยว่าเป็น ชาติอินเดีย ครับ

๑๔. คู่กำลังดาว.....มีกำลังเป็น ๖ ( พระอาทิตย์สร้างขึ้นมาจากราชสีห์ ๖ ตัว )

๑๕. ดาวคู่มิตร.....เป็นคู่มิตรกับดาวพฤหัสบดี ๕ ( อาทิตย์ ๑ เป็นมิตรกับครู ๕ ดาวพฤหัส ตามอำนาจของดาวชาติเวรเดิมตามประวัติที่มีมา )

๑๖. ดาวคู่ธาตุ.....เป็นคู่ธาตุกับดาวเสาร์ ๗ เพราะเป็นธาตุไฟด้วยกันทั้งคู่ เพียงแตกต่างกันที่อาทิตย์ ๑ เป็นธาตุไฟบรรลัยกัลป์ เสาร์ ๗ เป็นธาตุไฟสุมขอน

๑๗. ดาวคู่สมพล.....เป็นคู่สมพลกับดาวศุกร์ ๖ เพราะดาวอาทิตย์ ๑ มีกำลังเท่ากับ ๖ ส่วนดาวศุกร์ ๖ มีกำลังเท่ากับ ๒๑ รวมกำลังดาวกันแล้วได้ ๒๗ พอดี ( ดาวคู่ใดที่สามารถนำกำลังของตนมาบวกกันได้เท่ากับ ๒๗ ดาวคู่นั้นจะนับว่าเป็นคู่สมพลครับ )

๑๘. ดาวคู่ศัตรู.....เป็นคู่ศัตรูกับดาวอังคาร ๓ ตามดวงดาวคู่ชาติเวรที่มีเล่ากันมาตั้งแต่โบราณว่าเป็นคู่ศัตรูกันในเชิงชิงรักหักสวาทกัน และกันครับ

๑๙. ภาวะ.....เป็นดาวบาปพระเคราะห์ ( บาป คือ บาปะ แปลว่าความชั่วร้าย ความเลว สังเกตได้จากเลข ต้องเป็นเลข คี่ ยกเว้นดาวราหู ๘ ตัวเดียวครับ )

๒๐. ปางพระประจำวัน.....เป็นปางถวายเนตร

๒๑. ตัวเลข หรือเบอร์.....เลขประจำคือ เลข ๑ , ๑๐ , ๑๙ , ๒๘ , ๓๗ , ๔๖ , ๕๕ , ๖๔ , ๗๓ , ๘๒ , ๙๑ , ๑๐๐ , ๑๐๙ , ๑๑๘ , ๑๒๗ เป็นต้น... ( เพราะเมื่อรวมค่าตัวเลขให้เหลือตัวเดียวจะได้ค่าเท่ากับ ๑ ครับ )

๒๒. ตัวบุคคล.....ในเมื่อได้ทราบถึงลักษณะของอาชีพการงาน และงานของดาวอาทิตย์แล้ว สำหรับเรื่องของบุคคลนี้ก็เกี่ยวเนื่องกันและกันนั้นเองครับ คือตัวบุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นคนที่มีเกียรติ เป็นบุคคลที่สูงเด่นเต็มไปด้วยอำนาจและบารมี เป็นตัวบุคคลที่อยู่ในวงการราชการครับ เป็นนายคน เป็นหัวหน้าคน เป็นเจ้าของกิจการห้างร้าน พระราชา กษัตริย์ พระเจ้าแผ่นดิน นายกรัฐมนตรี นายจ้าง ( เป็นเพศพ่อ หรือสามี )

๒๓. สถานที่.....เป็นสถานที่ ที่โอ่อ่าหรูหรามีแสงมีเสียง หรือสถานที่ ที่เป็นแหล่งพลังงาน สถานที่ราชการ สถานที่ของบุคคลระดับสูงเขาอยู่กัน เช่น...สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( ก.พ. ) ที่ว่าการของกระทรวงต่าง ๆ รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล ศาลาว่าการกรุงเทพฯ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ พระราชวัง พระราชฐาน พระตำหนัก องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. ) องค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต. ) กรมการปกครอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ. )การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ. ) โรงไฟฟ้า กรมราชองรักษ์ ที่ทำการของกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน กรมทหารรักษาพระองค์

๒๔. รูปร่าง.....มีรูปร่างสันทัด ไม่อ้วน ไม่ผอม ผิวเนื้อดำแดง

๒๕. อัญมณี.....ได้แก่ พลอย จินดาที่มีสีประกายแดง เช่น..ทับทิม พลอยแดง อาภรณ์ก็ต้องเป็นสีแดงไปด้วย เช่น..เสื้อแดง กางเกงแดง หมวกสีแดง ผ้าพันคอสีแดง รองเท้าสีแดง เป็นต้น..ครับ

๒๖. รสชาติ.....รสเผ็ดร้อนแรง รสจัด หนักไปทางรสเผ็ด และร้อนด้วยครับ ( มากไปด้วยเครื่องเทศครับ )

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กำลังดาวพระเคราะห์

กำลังดาวพระเคราะห์

๓ พระอังคารเล็ก_____หมายถึง อุบัติเหตุ ผ่าตัด ทะเลาะวิวาท มีคดีความ ถูกจับกุมคุมขัง ต่อสู้ปราบปราม
๔ พระพุธเล็ก_______หมายถึง เอกสาร ข่าวสาร การพูด การเจรจา เชื่อง่าย หูเบา (ถ้าชนเสีย จะถูกหลอกลวง)

๕ พระพฤหัสบดีเล็ก _____หมายถึง การศึกษาการศาสนา ความยุติธรรม ศีลธรรม การบุญการกุศล โครงการระยะสั้น

๖ กำลังพระอาทิตย์ _____หมายถึง ราชการ เกียรติยศ ชื่อเสียง ความทะเยอทะยาน ทิษฐิมานะ

๗ พระเสาร์เล็ก _____หมายถึง โทษทุกข์ ระทมขมขื่น เกิดคดีความ อุบัติเหตุ ของเก่า ของสกปรกรกรุงรัง

๘ กำลังพระอังคาร______หมายถึง การต่อสู้ อุบัติเหตุ แตกหัก ผ่าตัด มีคดีความ ขึ้นโรงขึ้นศาล

๙ พระเกตุ _____หมายถึง นามธรรม จิตวิญญาณ สิ่งลี้ลับ สมาธิภาวนา โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ ญาณหยั่งรู้ ได้เสียไม่คาดคิด

๑๐ กำลังพระเสาร์ _____หมายถึง โทษทุกข์ รอคอย ระทมขมขื่น เกิดอุบัติเหตุ คดีความ เรื่องเก่าๆ สกปรกรกรุงรัง

๑๑ ราชาโชค _____หมายถึง การได้มาแบบง่ายๆ ได้เป็นคู่ ได้แล้วได้อีก (ถ้าชนเสียก็เสียเป็นคู่ หรือ เสียแล้วเสียอีก )

๑๒ กำลังพระราหู_____หมายถึง มัวเมา ลุ่มหลง นักเลง ของผิดกฎหมาย ศีลธรรม ประเพณี

๑๓ มหาอุจจ์_____หมายถึง พื้นดวงถือมั่นคงสูงส่งในหน้าที่การงานแต่ถ้าในการดูจร จะทำให้คุณมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ อาชีพใหม่ หักเห ผลิกผัน ถ้าชนเสีย ผ่าตัด ปากเสียง แตกแยก มีคดีความ

๑๔ จักรพรรดิ์_____หมายถึง การต่อสู้ทุกรูปแบบ มีทรัพย์ ชื่อเสียงเกียรติยศ จะประสบความสำเร็จ ได้ด้วยการกระทำของตนเอง ต้องต่อสู้จึงจะได้มา แต่ถ้าชนเสีย จะเหนื่อยเป็นพิเศษ จะพบกับอุปสรรค ศัตรูคู่แข่ง
มักจะมีกรณีพิพาทฟ้องร้อง คดีความ แต่กว่าจะผ่านไปได้ก็แทบตาย

๑๕ กำลังพระจันทร์ _____หมายถึง ความมีเสน่ห์ การบริการ ยานพาหนะ การต่างประเทศ เกี่ยวกับน้ำ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กๆ หรือ สตรี จริตมารยา

๑๖ โสฬสมงคล _____หมายถึง คุณจะได้อะไรมาง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนลงแรง เรียกว่าราชรถมาเกย หรือส้มหล่นก็ได้ มีโชคลาภ จะได้มรดกตกทอด

๑๗ กำลังพระพุธ_____หมายถึง การค้าขาย การเจรจาติดต่อประสานงาน การสื่อสารทุกชนิด งานที่เกี่ยวกับการประกัน สิ่งพิมพ์ คอมพิวเตอร์ สัตว์เลี้ยง ของกิน เสื้อผ้า

๑๘ มหาจักรพรรดิ์_____หมายถึง การต่อสู้ ใช้อำนาจอย่างรุนแรง ต้องสู้ เหน็ดเหนื่อย ได้อะไรมาต้องเหนื่อย ต้องต่อสู้จึงจะได้มา แต่ถ้าชนเสีย จะมีกรณีพิพาทฟ้องร้อง คดีความ กว่าจะผ่านไปได้ก็แทบตาย

๑๙ กำลังพระพฤหัสบดี______หมายถึง การเรียน การศาสนา การศึกษา ความยุติธรรม โครงการระยะยาว
๒๐ พระเสาร์กำลังสอง _____หมายถึง โทษทุกข์แสนสาหัส คดีความ เจ็บป่วย พลัดพรากจากที่อยู่

๒๑ กำลังพระศุกร์_____หมายถึง การเงิน ศิลป ของสวยงาม ของสำเร็จรูป การบันเทิงเริงรมย์ทุกชนิด

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การตั้งดวง เลข 7 ตัว 9 ฐาน

เริ่มที่วันเกิด ก่อนเลยครับ ซึ่งวันก็มี 7 วันใน 1 สัปดาห์ ครับ
วันอาทิตย์ แทนด้วยเลข 1
วันจันทร์ แทนด้วยเลข 2
วันอังคาร แทนด้วยเลข 3
วันพุธ แทนด้วยเลข 4
วันพฤหัส แทนด้วยเลข 5
วันศุกร์ แทนด้วยเลข 6
วันเสาร์ แทนด้วยเลข 7

บางคนมีคำถามว่า เกิดวันพุธ แล้ว พุธกลางวัน กับพุธกลางคืน
ใช้เลข 4 เหมือนกันมั๊ยครับ
คำตอบคือ ใช่ครับ ใช้ 4 เหมือนกันครับ
แต่เวลาพยากรณ์ เราจะออกคำพยากรณ์ลักษณะเจ้าชะตาต่างกันออกไป
หัวใจสำคัญของการหาดาวแทนวันเกิด ก็คือเรื่อง เวลาเกิด
เพราะถ้าเกิด ช่วงเวลา 00.01 - 05.59 น. เรายังถือเป็นคนเกิดวันเก่าอยู่นะครับ
พื้นฐานตรงนี้ ตกม้าตายมาหลายคนแล้วครับ ตั้งผิดวันก็ทายผิดนะครับ
ขอยก ตัวอย่างประกอบนะครับ

เกิด วันที่ 3 มกราคม 2552 เวลา 05.00น. ต้องตั้งฐานวันเกิด อย่างไร
พอเปิดปฏิทินดู วันที่ 3 มค. 2552 ตรงกับวันเสาร์ ครับ
หลายคนจะบอกอย่างนั้น แต่อย่าลืมหัวใจสำคัญของวันเกิดครับ
เจ้าชะตาเกิดเวลา 05.00 น.นะครับ เพราะฉะนั้นต้องถือว่าเป็นวันเก่า
นั่นก็คือ คนวันศุกร์ครับ
เราก็จะตั้งฐานวันเกิด ได้ดังนี้
6....7....1....2.....3....4....5
สรุป
เกิดวันอาทิตย์ ตั้ง 1....2.....3....4....5....6....7
เกิดวันจันทร์ ตั้ง 2.....3....4....5....6....7....1
เกิดวันอังคาร ตั้ง 3....4....5....6....7....1.....2
เกิดวันพุธ ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
เกิดวันพฤหัส ตั้ง 5....6....7....1....2.....3....4
เกิดวันศุกร์ ตั้ง 6....7....1....2.....3....4....5
เกิดวันเสาร์ ตั้ง 7....1....2.....3....4....5....6

ต่อไปเป็น ฐานที่ 2 ฐานเดือนเกิดนะครับ
ฐานเดือน ง่ายหน่อย ไม่สับซ้อนครับ เอาวันเดือนปีเกิด
ไปเทียบปฏิทินโหรได้เลยครับ ถ้าตรงกับ
เดือน ๑ หรือ เดือน ๘ ก็ตั้ง 1....2.....3....4....5....6....7
เดือน ๒ หรือ เดือน ๙ ก็ตั้ง 2.....3....4....5....6....7....1
เดือน ๓ หรือ เดือน ๑๐ ก็ตั้ง 3....4....5....6....7....1.....2
เดือน ๔ หรือ เดือน ๑๑ ก็ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
เดือน ๕ หรือ เดือน ๑๒ ก็ตั้ง 5....6....7....1....2.....3....4
เดือน ๖ ก็ตั้ง 6....7....1....2.....3....4....5
เดือน ๗ ก็ตั้ง 7....1....2.....3....4....5....6

หัวใจของฐานเดือน คือ ต้องเทียบปฏิทินโหรเป็นเดือนทางจันทรคติ
เท่านั้นนะครับ ถ้าไม่เทียบหาก็ผิดไปเลยครับ

ฐานที่ 3 ครับ ฐานปีครับ
เราก็เอาวันเดือนปีเกิดไปเทียบกับ ปฏิทินโหร เหมือนเดิมครับ
ก็จะทราบว่า เป็นปีนักกษัตรใด เช่น ชวด ฉลู....จอ กุน
หัวใจของฐานปีก็คือ ปีนักกษัตร จะเปลี่ยนเมื่อ
วันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ เสมอ
จากตัวอย่าง เจ้าชะตาเกิด วันที่ 3 มกราคม 2552 เวลา 05.00น.
คนเรียนใหม่ๆ ไม่มีหลักตรงนี้ จะตอบทันทีว่า ปีฉลู ครับ
พอเอาไปตั้งดวง ทายเปรี้ยงออกไป ตกม้าตายเลยครับ
เพราะอะไรครับ เพราะวันที่ 3 มกราคม 2552 เวลา 05.00น.
ตรงกับวันทางจันทรคติคือ วันศุกร์ ขึ้น๗ค่ำ เดือน ๒ ปีชวด ครับ
หลายท่านร้อง อ้าว ทำไมหละ
ก็กฎมันมีอยู่ว่า ปีนักกษัตร จะเปลี่ยนเมื่อขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ไง
แล้วเจ้าชะตาเกิด ขึ้น๗ค่ำ เดือน ๒ ซึ่งยังไม่ถึง ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕
ดังนั้นเจ้าชะตาก็ยังเป็นคนเกิดปีนักกษัตร ชอ วอ ดอ ชวด ครับ

การตั้งฐานที่ 3 ฐานปี มีดังนี้
ปีชวด หรือ ปี มะแม ก็ตั้ง 1....2.....3....4....5....6....7
ปีฉลู หรือ ปีวอก ก็ตั้ง 2.....3....4....5....6....7....1
ปีขาล หรือ ปีระกา ก็ตั้ง 3....4....5....6....7....1.....2
ปีเถาะ หรือ ปีจอ ก็ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
ปีมะโรง หรือ ปีกุน ก็ตั้ง 5....6....7....1....2.....3....4
ปีมะเส็ง ก็ตั้ง 6....7....1....2.....3....4....5
ปีมะเมีย ก็ตั้ง 7....1....2.....3....4....5....6

ขอทบทวนนิดนึงนะครับ
เราตั้งไป 3 ฐานแล้วนะครับ คือ
ฐานที่ ๑ ฐานวันเกิด
ฐานที่ ๒ ฐานเดือนเกิด
ฐานที่๓ ฐานปีเกิด
อย่าลืมนะครับ ทบทวนหลักเกณฑ์และหัวใจ ของ การตั้งดวง
ทั้ง ๓ ฐาน ให้เข้าใจถ่องแท้และแม่นยำเสียก่อน เพื่อที่จะได้
ไม่พลาดท่าให้เสียที ตั้งดวงผิดอีกครับ
ทีนี้ผมจะขออธิบายต่อนะครับ

ฐานต่อไปคือฐานที่ ๔
ฐานที่๔ เรียกว่า ฐานบวก หรือเรียกว่า ฐานกำลังพระเคราะห์ครับ
ฐานนี้เป็นฐานที่มีความสำคัญมากที่สุด อย่างที่ อ.บอล
ท่านบอกไว้นั่นแหละครับ เพราะฐานนี้บอกถึงความดี หรือ ร้าย ของ
ดาวแต่ละดวง ภพ หรือ เรื่องราว แต่ละเรื่อง
วัดกันด้วยฐานบวกนี้ ก็ อ่านดวงชะตาไปได้ 70 - 80 % แล้วครับ

วิธีการหาฐานบวก
1 หาได้จากการเอา เลขดาวทั้ง ๓ ฐาน คือ ฐานวันเกิด + ฐานเดือนเกิด
+ ฐานปีเกิด เข้าด้วยกันตามแนวดิ่ง
2 ผลลัพธ์ที่ได้ ให้เขียนไว้เต็มตามจำนวนที่บวกรวมได้ ไม่ต้องหักลบใดๆ
3 ให้ขีดเส้นกั้นแบ่งระหว่างฐานที่ ๓ กับ ฐานที่๔ นี้ให้เด่นชัด
เพื่อที่จะได้สังเกตุได้ชัดเจน

เอาหละครับ ผมจะขออนุญาต ตั้งดวง ตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนนะครับ
เจ้าชะตาเป็น ญ เกิด วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2520 เวลา 22.49น.
เมื่อไปเปิดปฏิทินโหรดูก็จะรู้ว่า เจ้าชะตาเกิดวันเสาร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 4
ปีมะโรง
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง 7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง 5....6....7....1....2....3....4
---------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก 16...12...15...11...7...10...13
---------------------------------
ไหนๆ ก็ไหนๆ นะครับ
เอามันให้ครบ 9 ฐาน ของวิชาพ่อเจษฯไปเลยนะครับ

ถ้าอย่างนั้นมาต่อ ฐานที่ ๕ กันครับ
หลักการหา ฐานที่๕ หาได้จาก
1 นำเอาฐานที่ ๔ มาคำนวนหาครับ
ถ้าฐานที่๔ เกิน 7 ให้ลบด้วย 7 จนเหลือ เลข 1-7 ครับ
หากเป็นเลข 1-7 อยู่แล้วไม่ต้องนำ 7 ไปลบนะครับ
2 จากนั้นนำเลขที่คำนวนได้แล้วไปใส่ ลงในฐานที่๕ ได้เลย
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๔ ฐานบวก 16...12...15...11...7...10...13
-------------------------------------------------
เกิน7 เอา7ลบออก
-7 .............9......5.....8....4....7.....3.....6
-7 .............2......5.....1....4....7.....3.....6
สรุปว่า
ฐ๕............ 2.....5.....1.....4...7....3.....6
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๕ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
--------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
--------------------------------------------------
ฐ๕..................... 2.....5.....1.....4...7....3.....6

หลักการหา ฐานที่ ๖ หาได้จาก
1 นำเอาฐานที่ ๕ มาคำนวนหาครับโดย
เอาดาวในฐานที่ ๕ คูณด้วย 2 ได้เท่าใด
ถ้าผลลัพท์ที่ได้เกิน 7 ให้ลบด้วย 7 จนเหลือ เลข 1-7 ครับ
หากเป็นเลข 1-7 อยู่แล้วไม่ต้องนำ 7 ไปลบนะครับ
2 จากนั้นนำเลขที่คำนวนได้แล้วไปใส่ ลงในฐานที่๖ ได้เลย
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๕............ 2.....5.....1.....4...7....3.....6
-------------------------------------------------
เอา 2 คูณ
จะได้..........4.....10....2.....8....14...6...12
-7 .............4......3.....2.....1....7.....6.....5
สรุปว่า
ฐ๖............ 4......3.....2.....1....7.....6.....5
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๖ ฐานดังนี้

ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------
ฐ๕..................... 2.....5.....1.....4...7....3.....6
ฐ๖......................4.....3.....2.....1....7.....6....5

หลักการหา ฐานที่ ๗ หาได้จาก
1 นำเอาฐานที่ ๖ มาคำนวนหาครับโดย
เอาดาวในฐานที่ ๖ คูณด้วย 2 ได้เท่าใด
ถ้าผลลัพท์ที่ได้เกิน 7 ให้ลบด้วย 7 จนเหลือ เลข 1-7 ครับ
หากเป็นเลข 1-7 อยู่แล้วไม่ต้องนำ 7 ไปลบนะครับ
2 จากนั้นนำเลขที่คำนวนได้แล้วไปใส่ ลงในฐานที่๗ ได้เลย
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๖............ 4......3.....2.....1....7.....6.....5
-------------------------------------------------
เอา 2 คูณ
จะได้..........8......6.....4.....2....14...12...10
-7 .............1......6.....4.....2....7.....5.....3
สรุปว่า
ฐ๗............ 1......6.....4.....2....7.....5.....3
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๗ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๖.....................4.....3.....2.....1....7.....6....5
ฐ๗....................1......6.....4.....2....7.....5.....3

หลักการหา ฐานที่ ๘ หาได้จาก
1 นำเอาเลขตัวแรกของฐานที่ ๕ ยกมาตั้งเป็นตัวแรกของฐานที๘
2 จากนั้นก็เดินยามกลางวันต่อไปจนครบ 7 หลักครับ
(ยามกลางวัน เรียงตัวดังนี้ 1......6.....4.....2....7.....5.....3 )
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
เราก็จะได้หน้าตาของ ฐานที่ ๘ ดังนี้
ฐ๘ ................... 2....7.....5.....3.....1......6.....4
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๘ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๖.....................4.....3.....2.....1....7.....6....5
ฐ๗....................1......6.....4.....2....7.....5.....3
----------------------------------------------------
ฐ๘ ...................2.....7.....5.....3.....1.....6.....4

หลักการหา ฐานที่ ๙ หาได้จาก
1 นำเอาเลขตัวสุดท้ายของฐานที่ ๕ มาบวกกับเลขตัวสุดท้าย
ของฐานที่ ๘
2 จากนั้นถ้าผลลัพท์ที่ได้ เกิน 7 ก็เอา 7 ลบออกให้เหลือ 1-7
เท่านั้นครับ
3 ให้นำ ผลลัพท์ที่ได้ มาตั้งในตำแหน่งสุดท้ายของฐานที่ ๙ ครับ
4 จากนั้นให้ เดินยามกลางวันย้อนกลับ แล้วตั้งจาก ทางขวาไปทางซ้าย
ต่อไปจนครบ 7 หลักครับ
(ยามกลางวันย้อนกลับ เรียงตัวดังนี้ 3......5.....7.....2....4.....6.....1 )
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๘ ................... 2....7.....5.....3.....1......6.....4
จะได้ 6+4=10
เอา 10-7=3
เราก็จะได้หน้าตาของ ฐานที่ ๙ ดังนี้
ฐ๙ ...................5.....7.....2.....4.....6.....1.....3
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๙ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------------------
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๖.....................4.....3.....2.....1....7.....6....5
ฐ๗....................1......6.....4.....2....7.....5.....3
----------------------------------------------------------------
ฐ๘ ...................2.....7.....5.....3.....1.....6.....4
ฐ๙ ...................5.....7.....2.....4.....6.....1.....3
----------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การทายปาก ใจ ที่นั่ง

หลักพื้นฐาน นั้นใช้ดาวเป็นหลัก แต่เวลาออกคำทำนาย ต้องพิจารณาด้วยว่าดาวนั้น ไปชนอะไรบ้าง
บางที ดาวดีครับ แต่ชนเสีย มันก็เลยดี แบบเสียๆ เอ๊ะมันเป็นยังไง ดี แบบเสียๆ ก็เป็นยังงั้นแหละครับ
ปากหวานพูดมีเหตุมีผล แต่เดี๋ยวก็วก ไปเรื่องไม่เหมาะ บางทีก็นินทา ลามกอะไรแบบนั้น อันนี้ก็ต้องพิจารณาให้ดีก่อน

การทายปาก ให้ดูที่ ภพ ปิตา ว่าเป็นเลขอะไร

เลข 1 พูดจริงทำจริง พูดรุนแรง แต่ก็มีเหตุผล
เลข 2 พูดนิ่มนวล ใครฟังก็ชอบ แต่ติดจะขยายความ แบบว่า มี 10 บอกมี 100
เลข 3 มักพูดคำด่าคำ พูดรุนแรง
เลข 4 ช่างเจรจา พูดจาคล่องแคล่ว
เลข 5 พูดจามีเหตมีผล เป็นที่เชื่อถือ
เลข 6 พูดจาไพเราะ เป็นที่เชื่อถือ
เลข 7 พูดตรงไปตรงมา เวลาโกรธมักโวยวาย

การทายใจ ให้ดูที่ภพพันธุ

เลข 1 เป็นคนใจร้อน รักจริงเกลียดจริง
เลข 2 อ่อนไหว รักง่ายหน่ายเร็ว
เลข 3 ใจนักเลง เอาแต่อารมณ์
เลข 4 ใจคอสุภาพ เมตตาคนและสัตว์ โกรธยาก หายช้า เปลี่ยนแปลงง่าย ปรวนแปร
เลข 5 ใจดีเที่ยงธรรม ชอบความยุติธรรม
เลข 6 รักสวยรักงาม สนุกรื่นเริง
เลข 7 หนักแน่นไม่กลังใคร ใครทำเจ็บแล้วลืมยาก

ทายที่นั่ง ดูภพลาภะ

เลข 1 มักอยู่ไม่ติดที่ ย้ายที่บ่อยๆ ชอบท่องเที่ยวไกล ๆ
เลข 2 เจ้าชู้ รักไม่แน่นอน
เลข 3 อยู่ไม่สุข ชอบทำอะไรเรื่อยๆ อยู่ไหนไม่นาน มักชอบโยกย้าย
เลข 4 อยู่ที่ใดก็ไม่ประสพความยุ่งยาก ทั้งที่อยู่และความรัก
เลข 5 อยู่ที่ใดก็ไม่ประสพความยุ่งยาก ทั้งที่อยู่และความรัก
เลข 6 อยู่ที่ไหน ก็สนุกที่นั่น
เลข 7 อยู่ไหนไม่นาน ชอบย้ายที่อยู่

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การตั้งดวงโดยใช้ยามอัฐกาล

ดวงยามนี้ ได้ทดลองใช้แล้วเข้าท่าดีเหมือนกัน จึงเก็บไว้ในบล็อก เพื่อเตือนความจำ วิธีคิดก็ ไม่ยากใช้ยามอัฐกาลเป็นหลัก

อัตตะ-ใช้วันปัจจุบัน จ-อ

ตนุ-ใช้ ยาม 90 นาที

มรณะ-ใช้ ยามซอย 11.15 จากยาม 90 นาที

20/8/2552

ตรงกับ พฤหัสบดี แรม 14 ค่ำ เดือน 9 ปีฉลู เวลา 12.48.50 ผูกดวงได้

5-4-3 วัน-ยาม 90-ยาม 11.15

5....6....7....1....2....3....4

4....5....6....7....1....2....3

3....4....5....6....7....1....2

-------------------------------------

12.15..18..14..10....6....9

-------------------------------------

ดวงยามแบบนี้ ผู้เขียนไม่วางลัคนา แต่อ่านจาก เรือนชะตาและ ดาว เลย

ดวงนี้มาให้ดู ผู้เขียน เห็นดาว 7 ทับ พันธุ และชน พยายะ จึง ถามว่า กำลังทุกข์ใจเรื่อง ในบ้าน และครอบครัว ใช่ไหม เจ้าตัวตอบว่าใช่ ไม่ถูกกับ แม่ผัวอยากย้ายบ้านอยู่ต่างหาก แต่แฟนเชื่อแม่ ไม่ยอมย้าย

ตนุ 4 ฐาน 15 สัมพันธ์ 2 มาตา-อริ-ทาสา บ่งบอกถึงมีปัญหากับผู้ใหญ่หญิง

การตั้งดวงโดยไม่ใช้เวลาเกิด

ใครเข้ามาอ่าน โปรดเข้าใจว่า ผู้เขียน เป็นเพียงผู้ชอบศาสตร์การพยากรณ์ ไม่ใช่มืออาชีพ หรือ คนเก่ง อะไรเลยครับ ข้อมูลนี้ อาจไม่ใช่ดีที่สุด แต่อยากแบ่งปันประสบการณ์ กับผู้ รักการ พยากรณ์เหมือนกันเท่านั้น

การตั้งดวง มีสามส่วนคือ

1. หาอัตตะ ใช้วัน ที่ถามตั้งเป็นตำแหน่งอัตตะ

2.หาตนุ ใช้ ยามอัฐกาล 90 นาที โดยเริ่มยามแรก จากวัน(อัตตะ)

3. หามรณะ ใช้ซอยยาม จากยามใหญ่ 90 นาที (ตนุ) เป็นยามละ 11.15 นาที แบ่งได้แปดยาม

เช่นวันนี้ วันที่ 9 ตุลาคม 2552 ตรงกับ วัน ศุกร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู เวลา 11.35 นาที

1. หาอัตตะ วันศุกร์ ใช้เลข 6 เป็นอัตตะ

2. หาตนุ ช่วง 11.35 เป็นยามที่ 4 ตกยามเสาร์ 7

3. หามรณะ ซอยยามจาก ตนุ 7 มีเศษ นาที 65 นาที ซอยยามละ 11.15 ตกยามที่ 6 ยามพุธ 4

ได้รหัสดวง 6/7/4 ตั้งดวงได้

6....7....1....2....3....4....5

7....1....2....3....4....5....6

4....5....6....7....1....2....3

-------------------------------------

17.13...9..12...8....11...14

-------------------------------------

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กรณีมีคนมาดูติด ๆ กันหลายคน ไม่จำเป็นต้องจับเวลาใหม่ แต่ใช้การเปลี่ยนยาม จากยามซอย 11.15 นาที ไปยามต่อ ๆ ไป ซึ้งยาม 11.15 คือ ตำแหน่ง มรณะนั่นเอง ในดวงตัวอย่างนี้ เป็นดาวพุธ 4 ใช้ดูคนแรก ส่วนคนต่อ ๆ ไป เปลี่ยนยามไปเรื่อย

เมื่อดูคนแรกเสร็จแล้ว คนที่สองใช้ยามต่อไป จาก 4 ไป 2 ใช้ 2 วางมรณะ

คนที่สาม จาก 2 ไป 7 ใช้ 7 วางมรณะ

ทำแบบนี้เรื่อยไป จนครบคนดู ส่วน ฐาน อัตตะ-ตนุ คงไว้

=====================================================ยามซอย 11.15 นาที จากยาม 90 นาที

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บริเฉทเจ็ดดารา

อันวิชาโหราเลขศาสตร์นี้ เป็นวิชาที่ใช้ยามอัฐกาลซอยย่อยออกเป็นนาที หรือในกรณีจำเป็นอาจซอยละเอียดลงในระดับวินาที แล้วกำหนดจุดลัคนาลงบนผังไตรภาคของเลขแทนสัตตดาราที่คนทั่วๆไปเรียกว่าเลข 7 ตัวแต่โดยความเป็นจริงแล้วเลขแทนดาวมี 7 เลข แต่จำนวนตัวเลขมีถึง 63 ตำแหน่ง ชี้วิถีดำเนินชีวิต 21 เรือนชาตาสัมพันธ์ถึงเรือนแฝงกระทบอีก 14 เรือนและผังดาราฤทธิ์อีก 7 ตำแหน่ง ถึงแม้ดาวต่างๆบนผังจะอยู่ในสภาพสถิตสถานคือคงที่ แต่วิถีดำเนินชีวิตกำหนดให้เคลื่อนไปตามตำแหน่งบนผังดาวเริ่มจากจุติสถานไปจนถึงจุดอายุจร สามารถบอกเหตุการณ์ได้ทุกกรณีในชีวิตมนุษย์ บอกได้แม้กระทั่งรูปพรรณบุคคลสูงต่ำ บอกลักษณะรูปหน้าตา ฟัน จุดเด่นจุดด้อยบนกาย ตำหนิไฝปานบนร่างกายก็ไม่พ้นให้ล่วงรู้ได้ ยิ่งวิชาบริเฉทเจ็ดดาราแล้ว ความมหัศจรรย์เหนือคำบรรยาย บอกเหตุการณ์บุคคลได้โดยไม่ต้องบอกวันเดือนและปีเกิดของเจ้าชะตา

ปัจจุบันนอกจากอาจารย์ศุกฤษฎ์แล้ว วิชานี้ยังไม่แพร่ออกไปในวงกว้าง เนื่องจากอาจารย์ศุกฤษฎ์รับคำมั่นกับหลวงปู่ไว้ว่าจะอนุรักษ์วิชานี้ไว้ให้โดยเฉพาะกับคนดีๆ ถึงวันนี้หลวงปู่จะได้จากไปแล้ว บรรดาศิษย์ที่ได้รับถ่ายทอดวิชานี้ก็จะเทิดทูลท่านดังปรมาจารย์วิชานี้สืบไป

ที่เราเรียกกันว่า "7 ตัวบริเฉทดารา" นั้นที่จริงเรียกผิด เราต้องเรียกว่า "บริเฉทเจ็ดดารา"

โดยวิชาต่างๆ ที่เราได้นำเสนอไป จัดแบ่งได้เป็น 3 หมวด ดังนั้น

1. [บริเฉทเจ็ดดารา] -> บริเฉท(กลุ่มหรือเหล่า) + ดารา(ดวงดาว)
เป็นวิชาที่ว่าด้วยการพยากรณ์ ที่สามารถพยากรณ์ได้โดยไม่ต้องใช้ วดป.เกิด ของผู้ที่จะมารับคำพยากรณ์เลย...

2. [พินิจนาที] -> พินิจ + นาที
เป็นวิชาที่ว่าด้วยการคำนวน ที่อ้างอิงเวลาในระดับ "นาที" แต่ถ้าซอยยามย่อยลงไปอีก หรือต้องการคำนวนระดับลึกเป็น "วินาที" ก็สามารถใช้ได้ โดยเรียกว่า "มหาพินิจนาที" การที่จะใช้คำนวนเด็กแฝดที่เกิดต่างกัน ในหลักนาที หรือวินาที ก็ใช้หลักตรงนี้แหละในการพยากรณ์ การคำนวนเวลาตายเป็นนาทีได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังบอกสาเหตุการตายได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ได้สร้างความลือลั่นมาแล้ว ในกระทู้หมอทองคิ้วน้อย ลองไปหาดู (ที่พยากรณ์น่ะเป็นศิษย์นะครับ) นี่แค่ศิษย์ของอาจารย์ท่านนี้ ยังพยากรณ์ได้ขนาดนี้ แล้วอาจารย์เองก็คงไม่ธรรมดา เอาเป็นว่ารายละเอียดไปนั่งอ่าน นั่งหาเอา ผมไม่ขอเอ่ยอีก เพราะเดี๋ยวจะหาว่าเข้าข้างกัน แต่อยากจะให้ใช้สติปัญญาพิจารณาเอง...

3. [นิเวศน์วิรุฬหการณ์] -> นิเวศน์ (สภาพแวดล้อม) + วิรุฬ (ฝน , ความเจริญ , ความชุ่มชื้น) + (เค)หะ + การณ์
เป็นวิชาที่ว่าด้วยหลักชัยภูมิไทย, ทำเล คล้ายๆ หลักฮวงจุ้ยของจีนน่ะครับ (แต่นี่คือศาสตร์ของไทย) โดยการวางผังบ้าน แล้วแทนที่ตำแหน่งต่างๆ ด้วยเลขและดวงดาว ท่านอาจารย์เล่าว่า บางทำเล หรือบางบ้าน แค่เดินผ่าน สามารถรู้ได้เลยว่าว่าบ้านใครป่วย ใครตาย เลิกกันหรือไม่ อยู่ดีมั๊ย อยู่แล้วจะเป็นอย่างไร ฯลฯ

* บริเฉทนั้นสามารถไม่ใช้วันเดือนปี ของผู้ทำนายก็จริง แต่เป็นลักษณะกว้างกว่า ถ้าได้ วันเดือนปีเกิด และ เวลาเกิดของ เจ้าชะตา ก็สามารถพยากรณ์ได้ตั้งแต่เกิด จนตายเลย

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การวางลัคนาในแบบเลข 7 ตัว

เมื่อตั้งตัวเลข 3 ฐาน ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อที่จะให้การพยากรณ์มีความแม่นยำขึ้นอีก ก็ให้ตรวจดูว่า เวลาที่เขาเกิดนั้นเป็นกลางวันหรือกลางคืน และต้องรู้ต่อไปอีกว่า เวลาที่เขาเกิดนั้น ตรงกับชื่อยามอะไร ให้ถือเอาชื่อยามนั้นเป็นหลัก สมมุติว่าคนเกิดวันอาทิตย์ เวลา 7.40 ตรงกับยามที่ 2 ของวันอาทิตย์กลางวัน คือยามศุกระ (6) ก็พึงยึดเอาเลข 6 ในฐานทั้งสามนั้น วางลัคนาลงไปโดยใช้เขียน “ลัค” เป็นเครื่องหมายแทน ลัคนานี้มีความหมายว่า “จุดกำเนิด “ นั่นเอง ซึ่งจะเป็นเครื่องหมายบ่งบอกให้รูถึงเหตุการณ์ชั่วดีของเขา และมีคำพยากรณ์เกี่ยวกับลัคนาเกาะกุมฐานพยากรณ์ ทั้งสามฐาน ดังจะได้กล่าวต่อไปข้างหน้า

การนับยามหาเวลาเกิด เพื่อวางลัคนานี้ถึงบุคคลที่เกิดกลางคืนก็ดุจเดียวกันนี้ คือตกยามอะไร ก็ให้ถือเอายามนั้นเป็นหลัก ให้พึงพิจารณาดูให้ถี่ถ้วนทั้งสามฐานพยากรณ์ ตัวเลขใด ในฐานพยากรณ์ทั้งสามฐาน ที่มีลัคนาเกาะอยู่เรียกว่าตัวเลขลัคนาเกาะเลขตัวนั้น และเลขตัวนั้นตรงกับศัพท์ประจำฐานนั้นว่าอะไร ซึ่งมีคำพยากรณ์ดังต่อไปนี้

ลัคนากุมตนุและอัตตะ ทายว่า จะได้พึ่งตัวของตัวเอง พึ่งญาติมิได้เลย ถ้าจากที่อยู่ถิ่นอื่นจะได้ดี จะได้ภรรยาเป็นคนรูปงาม แต่เป็นคนเก็บรักษาทรัพย์ไว้มิคงเป็นคนที่มีศัตรูกลัวเกรงและทำอันตรายมิได้

ลัคนากุมหินะ ทายว่า เอาตัวเองมิรอด มักเป็นกรรม ทำงานเอากำลังแลกเงิน มากกว่าใช้ความคิด และต้องถ้อยความอยู่บ่อยครั้ง

ลัคนากุมธนัง ทายว่า เอาตัวเองริรอด มักเป็นกรรมการ ทำงานเอากำลังแลกเงิน มากกว่าใช้ความคิด และต้องถ้อยความอยู่บ่อยครั้ง

ลัคนากุมปิตา ทายว่า เป็นคนมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง จะเป็นคนมีข้าทาสชายหญิง บริบูรณ์ ทุกประการแล

ลัคนากุมมาตา ทายว่า บุคคลผู้นั้นมีกิริยาวาจา และมีนิสัยใจคอเหมือนมารดามากกว่าบิดา

ลัคนากุมโภคา ทายว่า ประเสริฐนักจะเป็นคนมีทรัพย์ และมีข้าทาสกรรมกรชายหญิงเป็นอันมาก

ลัคนากุมมัชฌมิมา ทายว่า จะเป็นคนอาภัพ ยากจน ยิ่งกว่าตระกูลบิดามารดาของตนเอง

ลัคนากุมตนุ ทายว่า ต้องพึ่งตัวของตัวเอง พึ่งญาติและพึ่งผู้อื่นมิได้

ลัคนากุมกดุมภะ ทายว่า บุคคลนั้นจะร่ำรวยมีทรัพย์มากตั้งแต่เกิดมาจะมิรู้ที่อับจนเลย

ลัคนากุมสุหัชชะ ทายว่า บุคคลนั้นชอบการสังคม เป็นคนมีเพื่อนฝูงมิตรสหายมาก

ลัคนากุมพันธุ ทายว่า เป็นคนที่มีญาติพี่น้องวงศ์วานมาก และจะได้พึ่งญาติพี่น้องนั้น

ลัคนากุมปุตตะ ทายว่า เมื่อมีบุตร ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งบุตรนั้น

ลัคนากุมอริ ทายว่า เป็นคนมีศัตรูมาก เป็นคนอาภัพ มักจะได้รับความทุกข์อยู่เนือง ๆ จะอยู่ในที่ใด ๆ ก็ตามเพื่อนฝูงญาติมิตรมักไม่ใคร่พอใจ

ลัคนากุมปัตนิ ทายว่า ถ้าเป็นชายจะได้ภรรยาที่อยู่ร่วมทุกข์สุขกันจนอวสาน และจะได้พึ่งภรรยานั้น

ลัคนากุมมรณะ ทายว่า เป็นคนอาภัพญาติกาเผ่าพันธุ์ จะพึ่งใครก็ไม่ตลอด เช่น โบราณว่าพึ่งตอ ๆ ก็หัก พึ่งหลัก ๆ ก็โค่น

ลัคนากุมสุภะ ทายว่า เป็นคนมีรูปงามและกิริยาวาจาสุภาพอ่อนโยน

ลัคนากุมกัมมะ ทายว่า เป็นคนขยันขันแข็งต่อกิจการงานต่าง ๆ เป็นอันดีไม่เป็นคนเกียจคร้าน จะมีทรัพย์สินเป็นอันมากจะเป็นที่พึ่งของลูกหลาน

ลัคนากุมลาภะ ทายว่า บุคคลนั้นจะได้เป็นที่พึ่งของบิดามารดา และจะได้เป็นใหญ่ กว่าคนทั้งหลายแลเป็นคนรู้จักนิสัยใจคอของคนทั้งหลายถ้าเป็นสมณะจะได้เป็นพระราชาคณะแล

ลัคนากุมกุมพยายะ ทายว่า เป็นคนขี้โรค มักเจ็บเป็นโรคพยาธิอยู่เนืองๆ ซึ่งเรียกว่า กรรมวิบากติดตัวมาแต่ชาติปางก่อน

ลัคนากุมทาสา-ทาสี ทายว่า เป็นคนตกต่ำยากจนเข็ญใจ กว่าพี่น้องเผ่าพันธุ์ของตนอีกนัยหนึ่งกล่าวว่า ถ้าเป็นวงศ์พระยาจะได้เป็นพระยาแทนพ่อ ถ้าเป็นวงศ์เข็ญใจ ก็จะเป็นคนเข็ญใจยิ่งกว่าบิดามารดาของตน


อนึ่ง ท่านโหราจารย์ท่านบังคับไว้ ให้ทายลัคนาที่เกาะกุมฐานวันเกิดเป็นปฐม ทายลัคนาเกาะกุมฐานเดือนเกิดเป็นมัธยม ทายลัคนาเกาะกุมฐานปีเกิดเป็นอวสาน การพยากรณ์นั้น ให้พยากรณ์ปฐมแข็งแรงมาก มัธยมแก่ปานกลาง อวสานแต่น้อยให้พยากรณ์ไปตามดีหรือร้าย ดังพรรณนานามาแล้วนั้นๆ เถิด

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การซอยยาม 90 นาที เป็น 11.15 นาที

เนื่องจากมีผู้ถามการซอยยามเพิ่อหา มรณะ ในดวงยามเจ็ดตัว จากยาม 90 นาที เป็นยามซอย 11.15 นาที จึง อธิบายอีกครั้ง ความจริงไม่ได้ยากอะไร ถ้าจำชื่อยามได้ ขึ้นใจ และแบ่งช่วงเวลา และ ช่วงยามถูก

วิธีการคือ แตกยามเป็นแปดส่วน จากเวลา 90 นาที จะได้ยามละ 11.15 นาที วิธีจำคือ ดูเศษนาที

ถ้าไม่เกิน 11.15 นาที เป็นยามที่ 1
ถ้าไม่เกิน 22.30 นาที เป็นยามที่ 2 นับจากหมดยาม 1
ถ้าไม่เกิน 33.45 นาที เป็นยามที่ 3 นับจากหมดยาม 2
ถ้าไม่เกิน 45.00 นาที เป็นยามที่ 4 นับจากหมดยาม 3
ถ้าไม่เกิน 56.15 นาที เป็นยามที่ 5 นับจากหมดยาม 4
ถ้าไม่เกิน 67.30 นาที เป็นยามที่ 6 นับจากหมดยาม 5
ถ้าไม่เกิน 78.45 นาที เป็นยามที่ 7 นับจากหมดยาม 6
ถ้า่เกิน 78.45 นาที ถึง 90 นาที เป็นยามที่ 8 นับจากหมดยาม 7

ตัวอย่างที่ 1 สมมุต เวลา 10.23 นาที วัน อาทิตย์ ถ้านับยาม 90 นาที จากเวลา 06.01 น. เป็นยามที่ 3 ตรงกับยาม พุธะ 4 และยามที่สามเริ่มจาก เวลา 09.01-10.30 น. คงมีเศษนาที 83 นาที (นับจาก 09.01 - 10.23 น.) คงอยู่ช่วงยามที่ 8 ไล่จากตัวยาม 90 นาทีคือ ยาม 4 พุธะ ไป 8 ยาม

4 2 7 5 3 1 6 [4] คงได้ยาม 4
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างที่ 2 สมมุต เวลา 09.15 นาที วัน อาทิตย์ ถ้านับยาม 90 นาที จากเวลา 06.01 น. เป็นยามที่ 3 ตรงกับยาม พุธะ 4 และยามที่สามเริ่มจาก เวลา 09.01-10.30 น. คงมีเศษนาที 15 นาที (นับจาก 09.01 - 09.15 น.) คงอยู่ช่วงยามที่ 2 ไล่จากตัวยาม 90 นาทีคือ ยาม 4 พุธะ ไป 2 ยาม

4 [2] 7 5 3 1 6 4 คงได้ยาม 2
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างที่ 3 สมมุต เวลา 13.15 นาที วัน จันทร์ ถ้านับยาม 90 นาที จากเวลา 06.01 น. เป็นยามที่ 5 ตรงกับยาม สุริชะ 1 และยามที่ห้าเริ่มจาก เวลา 12.01-13.30 น. คงมีเศษนาที 75 นาที (นับจาก 12.01 - 13.15 น.) คงอยู่ช่วงยามที่ 7 ไล่จากตัวยาม 90 นาทีคือ ยาม 1 สุริชะ ไป 7 ยาม

1 6 4 2 7 5 [3] 1 คงได้ยาม 3
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่างที่ 4 สมมุต เวลา 10.45 นาที วัน จันทร์ ถ้านับยาม 90 นาที จากเวลา 06.01 น. เป็นยามที่ 4 ตรงกับยาม ภุมมะ 3 และยามที่สี่เริ่มจาก เวลา 10.31-12.00 น. คงมีเศษนาที 15 นาที (นับจาก 10.31 - 10.45 น.) คงอยู่ช่วงยามที่ 2 ไล่จากตัวยาม 90 นาทีคือ ยาม 3 ภุมมะ ไป 2 ยาม

3 [1] 6 4 2 7 5 3 คงได้ยาม 1
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ยามอัฐกาล

ยามอัฐกาล เบื้องตัน

===============================================

ยามอัฐกาล มีกลางวันกลางคืน มีชื่อเรียกดังนี้

กลางวัน สุริชะ ศุกระ พุธะ จันเทา เสารี ครู ภุมมะ สุริชะ

กลางคืน รวิ ชีโว ศศิ ศุกโกร ภุมโม โสโร พุโธ รวิ

สังเกตุว่าแต่ละช่วงจะมี 8 ยาม รวมกลางวัน กลางคืน 16 ยาม ส่วนยามไหนจะเป็นยามแรก อยู่ที่เป็นวันอะไร หลักสำคัญจำเป็นต้องท่องชื่อยาม กลางวัน กลางคืนให้ได้แม่นยำ

===============================================

ยามกลางวัน

สัริชะ ตรงกับดาว อาทิตย์ เลข 1 วันอาทิตย์

ศุกระ ตรงกับดาว ศุกร์ เลข 6 วันศุกร์

พุธะ ตรงกับดาว พุธ เลข 4 วันพุธ

จันเทา ตรงกับดาว จันทร์ เลข 2 วันจันทร์

เสารี ตรงกับดาว เสาร์ เลข 7 วันเสาร์

ครู ตรงกับดาว พฤหัส เลข 5 วันพฤหัสบดี

ภุมมะ ตรงกับดาว อังคาร เลข 3 วันอังคาร

สัริชะ ตรงกับดาว อาทิตย์ เลข 1 วันอาทิตย์

===============================================

ยามกลางตืน

รวิ ตรงกับดาว อาทิตย์ เลข 1 วันอาทิตย์

ชีโว ตรงกับดาว พฤหัส เลข 5 วันพฤหัสบดี

ศศิ ตรงกับดาว จันทร์ เลข 2 วันจันทร์

ศุกโกร ตรงกับดาว ศุกร์ เลข 6 วันศุกร์

ภุมโม ตรงกับดาว อังคาร เลข 3 วันอังคาร

โสโร ตรงกับดาว เสาร์ เลข 7 วันเสาร์

พุโธ ตรงกับดาว พุธ เลข 4 วันพุธ

รวิ ตรงกับดาว อาทิตย์ เลข 1 วันอาทิตย์

===============================================

การ แบ่งยามนั้น ในหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง ให้แบ่งเป็น กลางวัน 12 ชั่วโมง กลางตืน 12 ชั่วโมง เมื่อ เอา 8 หาร 12 แต่ละช่วงแล้ว คงได้ ยามละ 90 นาที

ยามกลางวัน

ยามแรก นับแต่ 06.01 - 07.30 น

ยามสอง นับแต่ 07.31-09.00 น

ยามสาม นับแต่ 09.01 - 10.30 น

ยามสี่ นับแต่ 10.31 - 12.00 น

ยามห้า นับแต่ 12.01 - 13.30 น

ยามหก นับแต่ 13.31 - 15.00 น

ยามเจ็ด นับแต่ 15.01 - 16.30 น

ยามแปด นับแต่ 16.31 - 18.00 น

ยามกลางคืน

ยามแรก นับแต่ 18.01 - 19.30 น

ยามสอง นับแต่ 19.31-21.00 น

ยามสาม นับแต่ 21.01 - 22.30 น

ยามสี่ นับแต่ 22.31 - 24.00 น

ยามห้า นับแต่ 24.01 - 01.30 น

ยามหก นับแต่ 01.31 - 03.00 น

ยามเจ็ด นับแต่ 03.01 - 04.30 น

ยามแปด นับแต่ 04.31 - 06.00 น

==================================================

ตัวอย่างการเรียงยาม สมมุติวันศุกร์กลางวัน เรียงดังนี้

กลางวัน (ศุกระ ยาม ๑) (พุธะ ยาม ๒) (จันเทา ยาม ๓) (เสารี ยาม ๔) (ครู ยาม ๕) (ภุมมะ ยาม ๖) (สุริชะ ยาม ๗) (ศุกระ ยาม ๘)

ตัวอย่างการเรียงยาม สมมุติวันพฤหัสกลางคืน เรียงดังนี้

กลางคืน (ชีโว ยาม ๑) (ศศิยาม ๒ ) (ศุกโกรยาม ๓) (ภุมโมยาม ๔ ) (โสโร ยาม ๕) (พุโธยาม ๖ ) (รวิ ยาม ๗) (ชีโว ยาม ๘)

สังเกตว่า ยามสุดท้าย(ยาม ๘) ทั้งกลางวัน กลางคืน จะซ้ำกับยามแรกเสมอ วันอื่น ๆ ก็เรียงเหมือนกันเพียงแค่ เลขยามแรก เปลี่ยนตามเลขวัน เพื่อตั้งยามแรก

====================================================
สำหรับยาม ซอย 11.15
(01-11.15 นาที ยาม ๑)
(11.16-22.30 นาที ยาม ๒)
(22.31-33.45 นาที ยาม ๓)
(33.46-45 นาที ยาม ๔)
(45.01-56.15 นาที ยาม ๕)
(56.16-67.30 นาที ยาม ๖)
(67.31-78.45 นาที ยาม ๗)
(78.46-90 นาที ยามที่ ๘)

===================================================

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ความหมายของความสัมพันธ์ของดาว(คู่ดาว)

ความหมายคู่ดาว

1+2 คู่ผัว-คู่เมีย คู่มิตร ดาวอาทิตย์ดาวจันทร์สัมพันธ์กันดี ให้ผลความสำเร็จด้านครอบครัวและหมู่คณะ
1+3 คู่ศัตรู คู่ปะทะ คู่ขยัน ให้ผลด้านความขยัน ต่อสู้คล่องแคล่ว
1+4 คู่ประชาสัมพันธ์ ให้ผลดีด้านการติดต่อ ประชาสัมพันธ์ การเจรจา ได้รับความร่วมมือจากผู้อ่อนวัยกว่า
1+5 คู่มิตรใหญ่ ให้ผลดีมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ให้ความไว้วางใจ ฉลาดรอบรู้ เรียนรู้ปัญหาได้เร็ว
1+6 คู่สมพล คู่เด่น คู่กำลัง ให้ผลด้านความมีเสน่ห์ มีหน้ามีตา เอาใจคนเก่ง แต่มีความต้องการทางเพศร้อนแรง
1+7 คู่ธาตุไฟ ส่งเสริมด้านอำนาจ ผู้คนยำเกรง มีความสำเร็จแต่ต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างหนัก วุ่นวาย เหน็ดเหนื่อย
1+8 คู่เสื่อมเกียรติ เป็นคู่ขัดลาภ ผิดหวังบ่อย วิถีการดำรงชีวิตไม่ค่อยดี มีความรู้ความสามารถแทบทุกอย่าง
1+9 คู่เสริมบารมี ให้ผลส่งเสริมด้านอำนาจ วาสนา บารมี ยศถาบรรดาศักดิ์
1+0 คู่ถูกโค่น ให้ผลด้านสูญเสียอำนาจ ถูกโค่นอำนาจ เกียรติยศชื่อเสียง

2+3 คู่ชู้ คู่หวาดระแวง ตัดสินใจรวดเร็ว กล้าเสี่ยงเรื่องทางเพศ เช่น เป็นชู้ มักหมุนเงินด้วยวิธีแปลก ขี้ระแวง
2+4 คู่มิตรเจ้าเสน่ห์ เก่ง มีความรู้ มีระเบียบ ไหวพริบ
2+5 คู่ธาตุดิน คู่ศัตรู คู่ผัวเมีย ได้คู่ครองดี หญิงได้ของมีค่าที่พอใจจากสามี ชายอาจได้ภรรยาโดยไม่ต้องเสียสินสอด
2+6 คู่สำราญ คู่ฟุ้งเฟ้อ ชอบโอ่อ่า เจ้าสำราญ กิเลสเยอะ มีเล่ห์เหลี่ยมในการหารายได้
2+7 คู่พลัดพราก คู่ได้ มีวิตกจริต มักมีชีวิตที่แตกแยก โดดเดี่ยว แต่งงานแล้วมักแตกแยก คู่แตกหัก อยู่ด้วยกัน มักเลิกรา
2+8 คู่ผลประโยชน์ เจ้าอารมณ์ เชื่อคนง่าย มักถูกหลอก ชอบสร้างหนี้หรือมีเครดิตดี
2+9 คู่ยุ่งใจ อารมณ์แปรปรวน ไม่แน่นอน ขี้บ่น ทำตัวยุ่งไปทุกเรื่อง
2+0 คู่วิปริต มักมีความคิดหรืออารมณ์และการตัดสินใจที่แตกต่างไปจากคนอื่น

3+4 คู่วาทะ คู่วิชาการ คู่คิดคู่กระทำ มีชั้นเชิงในการใช้วาทะศิลป์ที่น่านับถือ แต่มักเจรจาด้วยคำพูดที่รุนแรง ดุดัน ขยันขันแข็ง
3+5 คู่สมพล คู่กล้าหาญ ฉลาดเฉลียว ไหวพริบดี พลิกแพลงเก่ง หัวรุนแรง ทำตามแนวคิดของตัวเองเสมอ
3+6 คู่มิตร คู่กามารมณ์ คู่เซ็กซ์ เจ้าชู้ สนใจเรื่องกามารมณ์เป็นพิเศษ มีความคิดแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องเพศ
3+7 คู่จองเวร คู่ทรหด ชีวิตต้องสู้ มักประสบอุปสรรคต่างๆ นานา บ้าบิ่น ไม่กลัวลำบากวิบากกรรม อาฆาตพยาบาท ทุกข์ทรมาน
3+8 คู่ธาตุลม คู่นักเลง ชอบของมึนเมา การพนักทุกชนิด นักเลงหัวไม้ กล้าทำในสิ่งผิดกฎหมาย ชอบลุ่มหลง
3+9 คู่เสริมพลัง มีความมานะอดทนดี มีการตัดสินใจที่ดี มักจะประสบผลสำเร็จในด้านการงานเสมอ
3+0 คู่คดีความ คู่อุบัติเหตุ ชอบการเสี่ยงอันตราย ไม่รอบคอบ มักจะประสบอุบัติเหตุรุนแรง

4+5 คู่ปราชญ์ คู่บัณฑิต ฉลาดรอบรู้มีศีลธรรม มีเหตุมีผล เป็นที่นับถือของคนในสังคม
4+6 คู่ธาตุน้ำ คู่เสน่ห์ มีเสน่ห์เป็นที่ชอบพอของผู้ที่ได้คบหา รักเกียรติตัวเอง
4+7 คู่สมพล คู่โครงการณ์ คิดการไกล ไม่ขาดแคลนเรื่องเงิน มักมีการโต้แย้งแบบระบายอารมณ์
4+8 คู่เล่ห์เหลี่ยม คู่ไหวพริบ เหลี่ยมจัด แต่มักจะพูดจาขวานผ่าซาก บางครั้งทำให้ศัตรูรู้ทัน แต่มักเอาตัวรอดได้ เจ้าเล่ห์เพทุบายหลอกลวง
4+9 คู่วาทะศิลป์ พูดจาดีมีเสน่ห์เป็นที่ชอบพอของคู่สนทนา เช่น นักร้อง นักพูด
4+0 คู่ที่ไร้สาระ ชอบพูดและคิดเรื่องที่ไม่มีแก่นสาร

5+6 คู่สัมพันธ์ คู่โชค คู่ทรัพย์ คล่องแคล่วว่องไว ฉลาดหลักแหลม เจ้านายชื่นชอบ นักการเงินการธนาคาร
5+7 คู่พระคู่โจร คู่ยืดเยื้อจำเจ คู่เก่าแก่ โบราณ ปัญญาดี เลียนแบบเก่ง ทำตัวนอกลู่นอกทาง มักผูกใจเจ็บ
5+8 คู่โลกคู่ธรรม คู่ค้าขาย คู่เศรษฐกิจ มีการปรับตัวเก่ง เข้าได้ทั้งด้านธรรมและทางโลก แต่ถ้าค้าขายก็มักจะมีเล่ห์เหลี่ยมในการค้าดี โลดโผนไม่ติดที่
5+9 คู่ลึกลับ มักชอบศาสตร์ลี้ลับ สนใจเรื่องจิดวิญญาณ สนใจอดีตอันยาวนานและอนาคตอันไกล
5+0 คู่ครูวิเศษ สนใจศาสตร์ลี้ลับ โหราศาสตร์ วิทยาศาสตร์

6+7 คู่ศัตรู คู่ขมขื่น ชีวิตมักขาดเงิน ขาดรัก ถูกเบียดเบียนแย่งชิงอยู่เสมอ ผะอืดผะอมขมขื่น ขัดแย้งทางความคิด
6+8 คู่หลงระเริง คู่เซ็กส์ มักมีโชคแบบไม่คาดฝัน แต่ชอบเรื่องกามารมณ์
6+9 คู่วุ่นวาย ชีวิตมักวุ่นวายเรื่องการเงินและความรักเสมอ
6+0 คู่เสียทรัพย์ มักจะมีเรื่องทำให้เสียเงินเสียทองเสมอ มักจะถูกโกง

7+8 คู่มิตร คู่นักเลง ชอบคบหาคนที่ต่ำศักดิ์กว่า ชอบทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน (เป็นบาปพระเคราะห์ทั้งคู่)
7+0 คู่กรรม คู่สันโดษ มักมีโรคที่หาสาเหตุไม่เจอรักษายาก มักมีกรรมเก่าติดตามมา ชอบทำตัวโดดเดี่ยว

8+9 คู่ขัดลาภ ลุ่มหลงในเรื่องไสยศาสตร์ ทรงเจ้าเข้าผี
8+0 คู่หลงผิด ยึดมั่นในอุดมการณ์ มักมีความคิดที่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนลำบาก

9+0 คู่ใจเด็ด ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวจนบางครั้งไร้หตุผล มีโอกาสทำใหตัวเองเดือดร้อนได้เช่นกัน

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ความหมายภพทั้งหมด 35 ภพ

ความหมายของภพทั้ง ๓๕ ภพ

ฐานที่ ๑ ฐานวันเกิด

อัตตะ
...... คือ ตัวตนเจ้าชะตา นิสัยใจคอ เน้นหนักไปทางความคิด

หินะ...... คือ ความชั่วช้าเลวทราม ความดื้อรั้น ความตกต่ำ หยาบคาย สกปรกโสมม ไร้ศีลธรรม
ความประพฤติที่ไม่ดี อาภัพ ไร้วาสนา ยืดเยื้อยาวนาน

ธนัง...... คือทรัพย์สิน ของมีค่า และสิ่งของเครื่องใช้ ที่เคลื่อนที่ได้

ปิตา...... คือ พ่อ พ่อเลี้ยง พ่อบุญธรรม ญาติทางพ่อ ชายที่มีอายุมากกว่า เจ้านาย(ชาย) หรือฐานะสูงกว่า

มาตา...... คือ แม่ ญาติทางแม่ แม่เลี้ยง แม่บุญธรรม เจ้านาย(หญิง) หญิงที่มีอายุมากกว่า หรือมีฐานะมากกว่า

โภคา...... คือ ทรัพย์สมบัติต่างๆ ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ ที่ดิน เรือกสวน ไร่นา

มัชฌิมา...... คือ ความพอประมาณ ปานกลาง ความเสมอ เพศตรงข้าม ที่มีอายุมากกว่า อายุวัยกลางคน วาสนาปานกลาง ไม่ดีและก็ไม่เลว คู่ครอง

ฐานที่ ๒ ฐานเดือน

ตนุ.... คือ ตัวของเจ้าชะตา สภาพความเป็นไปของเจ้าชะตา ลักษณะท่าทาง นิสัยใจคอ สุขภาพ เน้นในด้านการกระทำ

กดุมพะ..... คือ เงินทองหรือรายได้ทั้งหมด แต่ส่วนมากยังเป็นเอกสารแทนเงินอยู่เช่น เช็ค ดราฟท์ เป็นบัญชี เป็นตัวเลขอยู่ การหมุนเวียนการเงิน

สหัชชะ...... คือ เพื่อนสนิทใกล้ชิด หรือ คนใกล้ชิด เพื่อนบ้านใกล้ๆ การเดินทางใกล้ๆ การติดต่อ จดหมาย ข่าวสาร

พันธุ..... คือ ญาติ พี่น้องร่วมเรือนเดียวกัน คนที่สนิทเหมือนญาติ ที่อยู่อาศัย
ยานพาหนะ

ปุตตะ..... คือ บุตรชายหญิง หลานเหลน บุตรบุญธรรม การริเริ่ม การเกิดขึ้นใหม่
การปรับปรุงสิ่งใหม่

อริ...... คือ อุปสรรคต่างๆ ความขัดข้อง ศัตรูคู่แข่ง การฟ้องร้องคดีความ หนี้สิน ขโมย กรณีพิพาทมีเจ้าของ(เรื่องแฟน) ถูกอิจฉาริษยากีดกัน การต่อสู้ คนที่ไม่ถูกกัน ของมีตำหนิ

ปัตนิ...... คือ คู่ครอง เพศตรงข้ามที่มีอายุเท่ากัน หรือใกล้เคียงกัน การแต่งงาน หุ้นส่วน คู่สัญญากัน คู่ความ

ฐานที่ ๓ ฐานปี

มรณะ..... คือ การตายจาก เคราะห์ร้าย เจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ เลือดตกยางออก ความสูญเสีย ความเสื่อมโทรม สูญหาย การตกต่ำ เดินทางไม่ตั้งใจ พลัดพราก

สุภะ...... คือ ความดีงาม เครดิต เกียรติยศ ชื่อเสียง ความสมบูรณ์ก้าวหน้า ยศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่การงาน ความสวยงาม การเดินทางต่างประเทศ การแต่งงาน ความยุติธรรม เกี่ยวกับการค้ำประกัน การกู้ยืม

กัมมะ...... คือ กิจการงานต่างๆ งานในหน้าที่รับผิดชอบ ความขยันหมั่นเพียร เวรกรรม

ลาภะ...... คือ โชคลาภที่มุ่งหวัง ความสำเร็จ ผลกำไร จุดมุ่งหมาย เงินที่พร้อมจะใช้

พยายะ...... คือ ความเจ็บไข้ได้ป่วย ขี้โรค อ่อนแอ ไม่สมหวัง ของมีตำหนิ เลิกล้าง ความล้มเหลว ล้มละลาย การถูกกักขัง ความผิดปกติ พิการ อุบัติเหตุไม่คาดหมาย

ทาสา...... คือ บริวารเพศเดียวกับเจ้าชะตา คนที่ฐานะต่ำกว่า อายุอ่อนกว่า ความเหน็ดเหนื่อยลำบาก การทำเพื่อส่วนรวม

ทาสี..... คือ บริวาร เพศตรงข้ามที่อายุอ่อนกว่า คู่ชู้ คู่ครอง การทำเพื่อครอบครัว เพื่อตัวเอง

ฐานที่ ๘

อาตมา...... ตัวของเจ้าของเอง

ทาษา(มหาหินะ)..... ความเสื่อม ข้าทาส บริวาร คนที่ต่ำกว่า ความเหนื่อยยาก

มหาสิทธิโชค..... การมีโชคลาภ ได้ยศตำแน่ง การได้รับความสำเร็จ

มหาโภคสมบัติ...... ทรัพย์สิน ที่ดิน ไร่นา (อสังหาริมทรัพย์ )

มหาโจร...... เหตุการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน การปองร้าย การทุจริต การช่วงชิง การฉวยโอกาส

มหาอุบาทว์..... ความชั่วช้าต่ำทราม เหลวไหล ร้าย อันตราย ความไม่ดีทุกชนิด

มหาอุปถัมภ์ ...... ได้รับการอุปถัมภ์ ได้รับการร่วมมือ ได้รับการช่วยเหลือ มีผู้อุดหนุนจุนเจือ

ฐานที่ ๙

อัตตะ
..... ตัวเจ้าของชะตา

สักกะ..... คือ มิตรสหาย เพื่อนฝูง

ญาติ...... ญาติพี่น้องทั่วไป คนสนิทชิดชอบ

ธนัง..... ทรัพย์สินเงินทอง หรือการย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่อื่น

เคหัง..... บ้าน ที่อยู่อาศัย ที่ดิน

นาวัง..... การโยกย้าย เปลี่ยนแปลง เดินทางไกล ยานพาหนะ รถ เรือ แพ

ภริยัง...... คู่จร คู่ครอง หุ้นส่วน คนรัก การแต่งงาน คู่กรณี

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทำความรู้จักดาวก่อนทาย

มาดูนิสัยดาวกันครับ โดย อ.เอก

ดาวอาทิตย์ ( กำลัง 6 รังสี 4 ) ธาตุไฟเปลว

อุปนิสัย เป็นคนรักอิสระ ทระนง เด็ดเดี่ยว ใฝ่สูง ทะเยอทะยาน เฉลียวฉลาด สติปัญญาดี ซื่อตรง ใจกว้าง กล้าได้กล้าเสีย โกรธง่ายหายเร็ว มักไว้ใจคน มักจะทุกข์ใจเพราะคนอื่นเรื่อยๆ เป็นคนคล่องแคล่วว่องไว ใจนักเลงกล้าหาญ เป็นคนเปิดเผย

รูปร่าง เป็นคนรูปร่างสันทัด ไม่สูงต่ำ อ้วนผอม อกผายไหล่พึ่ง ตาคม หยิ่งทรนงตัว ถือตัว ชอบเป็นใหญ่ เจ้ายศเจ้าอย่าง ปราดเปรียว สง่างาม ชอบอิสระ หน้ามน รูปร่างสมส่วน ผิวเนื้อดำแดง นัยน์ตาแดงแต่งาม

สถานที่ สถานที่ราชการ พระราชวัง สำนักนายกฯ ก.มหาดไทย รัฐสภา ธนาคารชาติ โรงกษาปณ์ ร้านเพชรทอง ศาลาว่าการ อบจ. อบต. การไฟฟ้า โรงไฟฟ้า กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ ที่มีแสงไฟสว่างไสว

อวัยวะ เกี่ยวข้องกับหัวใจ เส้นประสาท โลหิต สมอง นัยน์ตา หลอดเลือด กระดูกสันหลัง
โรคภัย โรคเกี่ยวกับหัวใจ ความดันโลหิต ตะคริว โรคเกี่ยวกับโลหิต โรคสายตา เส้นเลือดอุดตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และ บั้นเอว โรคประสาท

สี สีแดงสด บานเย็น
รส รสเผ็ดร้อน
กลิ่น กลิ่นหอม
แร่ / อัญมณี ทองคำ ทับทิม เพชร
ทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ
อักษร สระทั้งหลาย
อุบัติเหตุ อุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟ เช่น ไฟช็อต ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ท่อไอเสีย
เพศ ชาย
เชื้อชาติ อังกฤษ

ดาวจันทร์ ๒ (กำลัง ๑๕ ธาตุ ดินชุ่ม)

อุปนิสัย......ชอบความนุ่มนวล มีจินตนาการสูง เป็นคนที่ดูนุ่มนวล แต่กลับโมโหร้ายมาก และมักแก้ปัญหาด้วยความหงุดหงิด ขว้างปาสิ่งของ ชอบตัดปัญหามากกว่าแก้ปัญหา

การงานของจันทร์........ นางพยาบาล แอร์โฮศเตส ครูอาจารย์ การบริการสังคม สงเคราะห์ ถ่ายรูป ขายน้ำ ผลิตน้ำดื่ม การประมง ขนส่ง

อิทธิพลของดวงดาว
บุคคล
.......บุคคลเพศหญิงยศสูงศักดิ์ เช่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายหญิง มารดา แพทย์หญิง นางพยาบาล นักท่องเที่ยว กะลาสี ชาวประมง แม่ครัว ช่างเสริมสวย ช่างทำผม แม่บ้าน

รูปร่าง.......เป็นคนที่มีผิวขาวเหลือง มีผิวพรรณดี สะอาดสะอ้าน สวยงาม รูปร่างเปราะบาง ร่างน้อย แก้มใหญ่ ใบหน้ารูปไข่ มีเสน่ห์แก่คนพบเห็น และเย้ายวนแก่เพศตรงข้าม

นิสัย........มีนิสัยอ่อนโยน อ่อนไหวง่าย ชักจูงได้ง่าย มีกิริยา มารยาท มีความคิดมีความเพ้อฝัน รวนเร แปรปรวน เจ้าน้ำตา เจ้าชู้ คิดมาก จุกจิก พิถีพิถันในการแต่งตัว แต่งตัวรัดกุม เรียบร้อย ละเอียดถี่ถ้วน มีจริตมารยา มีเสน่ห์

สถานที่...... สถานที่เกี่ยวกับน้ำ เช่นท่าเรือ ท่าน้ำ ห้องน้ำ สระว่ายน้ำ ลำคลอง หนองบึง ร้านขายน้ำ สถานที่ตากอากาศ ชายทะเล โรงเรียนสตรี โรงพยาบาล โรงครัว และสถานที่เกี่ยวกับสตรี ร้านเสริมสวย โรงผลิตเครื่องดื่ม โรงทำน้ำหวานทุกชนิด ยานพาหนะ ต่างประเทศ

โรคภัย.......กระเพาะอาหาร ต่อมทั้งหลายในตัวไม่ดี โรคเกี่ยวข้องกับท้อง เบาหวาน ซีส ต่อมน้ำเหลือง เต้านม แก้ม เยื่อหุ้มหัวใจ ระบบทางเดินอาหาร ริดสีดวงทวาร

สี.......สีขาวนวล ไข่มุก มุกดา บุษราคัม
รส......รสเค็ม
กลิ่น........กลิ่นหอมบริสุทธิ์
แร่ / อัญมณี.......แร่เงินและเพชรพลอย ที่มีลักษณะ สีขาว ไข่มุก
ทิศ.......ทิศตะวันออก
อักษร.......ตัวอักษร ก ข ฃ ฅ ฆ ง
อวัยวะ....... ใบหน้า นัยน์ตา แขน มือ อก นม ท้อง อวัยวะเพศหญิง มดลูก ต่อมต่างๆ ในร่างกาย กระเพาะอาหาร น้ำเหลือง น้ำลาย
อุบัติเหตุ........อุบัติเหตุเกี่ยวกับน้ำ น้ำ ท่วม ตกน้ำตาย เรือชน ถูกวางยาพิษ อาหารเป็นพิษ ผิดสำแดง
เพศ ........หญิง
เชื้อชาติ........จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม

ดาวอังคาร ๓ (กำลัง ๘ ธาตุลม)

อุปนิสัย.......เป็นคนอารมณ์ร้อน ใจร้อน เปลี่ยนแปลงง่าย มีความกล้าหาญ เชื่อมั่นในตัวเองสูง เป็นคนมุทะลุ เลือดร้อน เวลาหงุดหงิดโมโหแล้วใครก็ห้ามไม่อยู่ เป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เป็นคนตัดสินใจรวดเร็ว ความเข้มแข็ง ใครพาไปดีก็ดี ใครพาไปเสียก็เสีย

การงานของอังคาร........งานเกี่ยวกับโลหะ ของมีคม งานช่างฝีมือ ทหาร ตำรวจ วิศวกร แพทย์ผ่าตัด หมอฟัน อัยการ พัศดี นายอำเภอ ขายเครื่องจักร อูซ่อมรถ ศุลกากร โรงฆ๋าสัตว์ นักกีฬา ขายอาวุธ
อิทธิพลของดวงดาว

บุคคล........บุคคลที่เกี่ยวข้องกับทหาร ตำรวจ แพทย์ที่ทำการผ่าตัด ศัลยแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร นักเคมี นายช่าง ช่างทำอาวุธ คนตีเหล็ก คนฆ่าสัตว์ โจร เพชฌฆาต คนทำของมีคม คนตัดไม้ คนเหลาไม้ คนขับรถไฟ ช่างซ่อมเครื่องยนต์กลไก นักล่าสัตว์ นักเคมี

รูปร่าง.......ผิวดำแดง หน้ากระดูก มีโหนกแก้ม ผมหยิกหยักโศก เวลาเดินก้มหน้า เป็นคนมีรูปร่างผอมๆ หน้าแหลมๆ โครงกระดูกใหญ่ มักไว้ผมสั้น แข็งแรง ขอบตาโปน

นิสัย.......หงุดหงิด มักไม่รอบคอบ ฉุนเฉียวง่าย ท่วงทีวาจากล้าแข็ง กล้าหาญ โกรธง่าย กิริยามารยาท ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก เกรี้ยวกราด ขยันขันแข็ง ไม่หยุดนิ่ง ชอบบริการช่วยเหลือ มีทิฐิมานะ ทะเยอทะยาน มีอำนาจหรือเกี่ยวข้องกับอำนาจ ชอบผจญภัย โลดโผนรุนแรง เงินซื้อไม่ได้ ยอมหักไม่ยอมงอ ไม่ชอบให้ใครมาชี้มือใช้ ถ้าพูดดียอมตายแทน

สถานที่.......โรงพยาบาล สถานีอนามัย คลีนิครักษาโรค โรงงานยาสูบ โรงกลั่นน้ำมัน โกดังเก็บครุภัณฑ์ โรงเก็บอาวุธ โรงฟืน โรงไฟฟ้า โรงเหล็ก ร้านขายเหล็ก ลวดหนาม สถานที่เกี่ยวกับตำรวจ ทหาร สนามรบ หอรบ ค่ายลูกเสือ ค่ายตำรวจ ทหารอาสาทุกฝ่ายทั้งซ้ายและขวา และฐานทัพทุกชนิด ถ้าเป็นที่ดินจะเป็นที่ดินที่มีรูปแหลมๆ เฉียงๆ เอียงๆ ที่ๆมันไม่ได้ส่วน สูงๆต่ำๆ ที่ๆมีต้นไม้มีหนามเยอะๆ

โรคภัย.......การผ่าตัด อุบัติเหตุ การถูกทำร้าย บาดแผลต่างๆ กล้ามเนื้ออักเสบ การแตกหัก เลือดตกยางออก

สี.......สีชมพู สีแดง สีส้ม
รส........รสขม เปรี้ยว รสเผ็ด รสแสบร้อน
กลิ่น........กลิ่นฉุน กลิ่นเปรี้ยว
แร่ / อัญมณี........แร่เหล็ก , โกเมน
ทิศ.......ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (อาคเนย์)
อักษร.......จ ฉ ช ซ ฌ ญ
อวัยวะ....... หน้าผาก จมูก การผ่าตัดอุบัติเหตุ บาดแผลต่างๆ
อุบัติเหตุ.......อุบัติเหตุเกี่ยวกับ อวัยวะ หน้าแข้ง ท่อนแขน ฟัน
เพศ.......ชาย
เชื้อชาติ.......เยอรมัน

ดาวพุธ ๔ ( กำลัง ๑๗ รังสี ๔ ) ธาตุน้ำทะเล

อุปนิสัย..... อารมณ์แปรปรวน มีจินตนาการ มีเป้าหมายชัดเจน แต่เปลี่ยนแปลงง่าย ตกใจง่าย เปลี่ยนอารมณ์ง่าย กิริยามารยาทอันงดงาม พูดจาเฉียบแหลม ความจำดี มีปฏิภาณลึกซึ้ง

ส่วนดีของพุธคือ........คุณเป็นคนพูดจาไพเราะ มีนิสัยอ่อนโยน กิริยามารยาทเรียบร้อย ใครยืมเงินแล้วไม่ได้คืน คุณก็อภัยให้และไม่ทวงคืน

การงานของพุธ........งานที่เกี่ยวกับการประสานงาน การติดต่อสื่อสาร งานประสานงานที่เกี่ยวกับอำนาจ เช่น งานในวงราชการ หรือ เกี่ยวข้องกับงานราชการ อักษรศาสตร์ ฑูต บัญชี ร้านถ่ายรูป ครู อาจารย์ ทนายความ นักพูด นักขายประกัน นักข่าว เซลแมน นักเขียน นักประชาสัมพันธ์

อิทธิพลของดวงดาว
บุคคล........บุคคลที่มีอาชีพในการสื่อสาร เช่น นักข่าว นักหนังสือพิมพ์ นักเขียน นักถ่ายภาพ นักพูด ครู อาจารย์ ล่าม มัคคุเทศก์ นายหน้า ตัวแทน เซลส์ บุรุษไปรษณีย์ ค้าขาย ประชาสัมพันธ์ เลขานุการ สมุห์บัญชี นักการเมือง นักการฑูต และผู้ที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการพิมพ์ทุกชนิด

รูปร่าง........เป็นคนผิวขาวแดง หน้าสวย จมูกโด่ง รูปร่างสันทัด หน้ามนเตี้ย หรือเนื้ออวบอัด ท้วม

นิสัย.......ช่างพูดช่างเจรจา เจ้าเล่ห์ จอมวางแผน ชอบเรียนรู้ ชอบศึกษา ชอบอ่านหนังสือ แต่จิตใจโลเลไม่แน่นอน กิริยามารยาทอันงดงาม พูดจาเฉียบแหลม ความจำดี

สถานที่.......โรงพิมพ์ โรงเรียน วิทยาลัย ที่ทำการไปรษณีย์ ห้องสมุด องค์การโทรศัพท์ ร้านถ่ายเอกสาร ร้านเครื่องเขียน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษา ทศท อสมท กระทรวงคมนาคม
โรคภัย...... โรคประสาท มัยเกรน ปาก ฟัน ระบบหายใจไม่ดี ระบบโสตประสาทการรับฟังไม่ดี ความจำเลอะเลือน โรคทางสมอง สัมผัสเสีย ไม่รู้รส-กลิ่น โรคหืด โรคปอด ใบ้ ติดอ่าง

สี.......สีเขียวใบไม้
รส........รสผสมหลายชนิด
กลิ่น.......กลิ่นหอมฉุน เผ็ดร้อน
แร่ / อัญมณี.......แร่ปรอท มรกต , หยก
ทิศ.......ทิศใต้ ( ทักษิณ )
อักษร.......ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ
อวัยวะ........ปาก ปอด ลิ้น หู หลอดลม มันสมอง ไส้พุง ประสาทสัมผัสทั้งหมด หู เสียง ท้อง อวัยวะช่วยหายใจ กระเพาะอาหาร
อุบัติเหตุ......อุบัติเหตุเกี่ยวกับ ปาก ถูกทำร้ายที่ท้อง
เพศ........เพศกลางๆเป็นได้ทั้งชายและหญิง
เชื้อชาติ........ลาว และ เขมร อิรัก อิหร่าน

ดาวพฤหัส ๕(กำลัง ๑๙ รังสี ๑) ธาตุดินแข็ง

อุปนิสัย........เป็นคนหนักแน่น มั่นคง ละเอียด รอบคอบ ตรึกตรอง ทบทวนมาก จึงทำให้ตัดสินใจช้า
ส่วนดีของพฤหัสคือ เป็นคนที่ให้คำปรึกษา หรือคำแนะนำ ได้เป็นอย่างดี กับเพื่อนฝูง

การงานของพฤหัส.......งานเกี่ยวกับ ครู อาจารย์ การศึกษาทุกชนิด ที่ปรึกษา ผู้พิพากษา ทนายความ โหราจารย์ ร้านขายหนังสือ สังฆภัณฑ์ คลีนิคขายยา ศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เภสัชกร แพทย์แผนโบราณ นักสังคมสงเคราะห์ หมอนวดสุขภาพ มูลนิธิต่างๆ

อิทธิพลของดวงดาว
บุคคล....... บุคคลที่เป็นครูบาอาจารย์ นักบวช พระสงฆ์ อลัชชีสงฆ์ นักปรัชญา ผู้พิพากษา ตุลาการ นักกฎหมาย นายแพทย์ อัยการ ทนายความ นักศึกษา สมาชิกสภา สูงสุด

รูปร่าง........ขาวต่ำ หลังโค้งเล็กน้อย รักความยุติธรรม ไม่อ้วนไม่ผอม พูดจาเฉียบแหลม หน้ารูปไข่ ผมบาง หน้าผากกว้าง มีแผลเป็น หรือมีตำหนิที่ใบหน้า

นิสัย........เป็นคนที่มีชีวิตเพื่อคนอื่น หาทุกสิ่งทุกอย่างและทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น งกเพื่อคนอื่น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ตัวเองจะกินจะใช้คิดแล้วคิดอีก ดื้อรั้น อวดดี ไม่เชื่อฟังใคร เป็นคนมีเมตตา เผื่อแผ่ พูดจาเฉียบแหลม เริ่มใสในศาสนา ความรอบรู้ศิลปวิทยาทั้งมวล ช่างคิด เชาว์ไว รักความยุติธรรม เห็นแก่ได้ สุขุม รอบคอบ เฉลียวฉลาด พูดจาอ่อนหวาน เจ้าโทสะ มีปฏิภาณ

สถานที่.......ที่ที่เกี่ยวกับศาสนา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โบสถ์ วิหาร โรงเรียน โรงพยาบาล ศาลยุติธรรม เทวาลัย ศาลากลางจังหวัด รัฐสภา สนามกีฬา ห้องสมุด หอประชุมทางศาสนา มหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข อนามัย โรงพยาบาลสงฆ์ สภากาชาด ธนาคารออมสิน ธอส ธกส องค์การเภสัชกรรม กรมสุขภาพจิต เนติบัณฑิตยสภา อย. องค์การค้าคุรุสภา

โรคภัย.......โรควิกลจริต โรคหัวใจ ความดันโลหิต ชอบเป็นลม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคประสาท กระเพาะอาหาร โรคเนื้องอก โรคเกี่ยวกับเท้า โคนขา ต้นขา หู ตับ

สี....... สีเหลืองแก่
รส.......หวาน
กลิ่น.......หอมจางๆ
แร่ / อัญมณี.......สังกะสี บุษราคัม
ทิศ........ทิศตะวันตก ( ประจิม )
อักษร........บ ป ผ ฝ พ ภ ม
อวัยวะ....... เกี่ยวข้องกับ สะโพก โคนขา ปลายเท้า แขน มือ เส้นประสาท ช่องว่างในร่างกาย สติ ปัญญา ระบบการย่อยอาหาร
อุบัติเหตุ.......อุบัติเหตุเกี่ยวกับการเดินทาง ไฟ และ น้ำ
เพศ.....ชาย
เชื้อชาติ อเมริกัน แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

ดาวศุกร์ ๖(กำลัง ๒๑ รังสี ๓) ธาตุน้ำฝน

อุปนิสัย
........เป็นคนละเอียดอ่อน รักสวยรักงาม มีความรักแบบอบอุ่นน่า ทะนุถนอม แต่ถึงคราวต้องใช้อำนาจ ก็สามารถใช้อย่างเฉียบขาด แต่ก็ยังคงความนุ่มนวล

การงานของศุกร์ .......นักแสดง นักร้อง ร้านทำผม ร้านอาหาร เสื้อผ้า การถ่ายรูปนู๊ด งานโรงแรม งานธนาคาร จิวเวอร์รี่ ร้านขายดอกไม้ กิฟช็อป เฟอร์นิเจอร์ ขายผลไม้ ขนมหวาน เครื่องสำอางค์ เสริมสวย นาฏศิลป์ การโรงแรม ภัตตาคาร คาราโอเกะ ขายเครื่องอุปโภคบริโภค ขายสุขภัณฑ์ ขายสี โรงเรียนสอนลีลาศ โรงเรียนดนตรี ช่างตัด-เย็บผ้า ขายเทป

อิทธิพลของดวงดาว
บุคคล
.......บุคคลที่เป็นครูอาจารย์ด้านศิลปะทุกแขนง กวี ศิลปิน เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาป่าไม้ นักดนตรี นักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดง นักกีฬา นักท่องเที่ยว ช่างตัดผม ช่างเครื่องประดับ ช่างเสริมสวย ช่างดอกไม้
นายช่าง ผู้ค้าเครื่องสำอาง ช่างตัดเสื้อ หนุ่มสาวไฮโซ

รูปร่าง.......ขาว สูงท้วม หน้าแป้น เท้าเล็ก หน้าตาสวย หล่อ

นิสัย.......เป็นคนที่ชอบความสวยงาม รักในศิลปะ ดนตรี มีความยินดีในโลภ ความมกมุ่นในกามารมย์ เป็นคนมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม

สถานที่.......สถานบันเทิงเริงรมย์ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานที่เต้นรำ โรงแรม ไนต์คลับ อาบอบนวด ร้านบิวตี้ซาลอน สถาบันเสริมความงาม สถานที่แสดงมหรสพ ฯลฯ ที่หลับนอน ที่ติดต่อกันในเรื่องความรัก
โรงแรมม่านรูด

โรคภัย.......หญิง จะเป็น มดลูก รังไข่ ชาย จะเป็นที่ ต่อมลูกหมาก ทั่วไป คอเจ็บ ไต นิ่ว ระบบทางเดินปัสสาวะ กระเพาะปัสาสาวะ กามโรค เอดส์ ไร้สมรรถภาพทางเพศ

สี.......สีน้ำเงิน ฟ้า
รส........ฝาด
กลิ่น.......กลิ่นหอม
แร่ / อัญมณี........ทองแดง เพชร ไพลิน
ทิศ.......ทิศเหนือ ( อุดร )
อักษร.......ศ ษ ส ห ฬ อ
อวัยวะ........เกี่ยวข้องกับคอหอย แก้ม คาง อวัยวะสืบพันธุ์ มดลูก กระเพาะปัสสาวะ หลอดลม
อุบัติเหตุ.......อุบัติเหตุเกี่ยวกับการเดินทาง ทางรถยนต์ และ ทางน้ำ
เพศ.......หญิง
เชื้อชาติ.......ฝรั่งเศส อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์

ดาวเสาร์ ๗(กำลัง ๑๐ รังสี ๖)ธาตุไฟสุมขอน

อุปนิสัย.......เป็นคนใจร้อน โกรธง่าย ชอบใช้อารมณ์ มากกว่าเหตุผล เป็นคนมีอุดมคติ มีทิฐิ ไม่ง้อใคร ไม่เกรงกลัวใคร เป็นคนหวาดระแวง ชอบความท้าทาย ต่อสู้ผจญภัย

การงานของเสาร์....... ทหาร ตำรวจ สถาปนิก การก่อสร้าง ร้านขายเครื่องมือก่อสร้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ค้าปุ๋ย ร้านขายของชำ ร้านเหล็ก โรงงานอุตสาหกรรม สถาปัตย์ นายหน้าที่ดิน สับปะเหร่อ ปศุสัตว์ กิจการน้ำมัน แก๊ส โรงสีโรงเลื่อย ค้าขายพืชผัก บ่อปลากุ้ง ค้าของเก่า หาบเร่

อิทธิพลของดวงดาว
บุคคล
....... บุคคลที่เป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม ผู้อำนวยการโรงงานหรือองค์การต่างๆ นักคิด นักวางแผน ช่างอุตสาหกรรม กรรมกร กสิกร ผู้คุม สัปเหร่อ คนเฝ้าโบสถ์ พนักงานขับรถ คนขายถ่าน ชาวนา ชาวสวน ช่างก่อสร้าง

รูปร่าง....... เป็นคนมีรูปร่างสูงใหญ่ มือยาว เท้าใหญ่ยาว เดินทอดน่อง หรือขาพันกัน ฟันงุ้ม ผิวดำ คล้ำ ไม่ค่อยยิ้ม(เสือยิ้มยาก)

นิสัย.......รักสันโดด ลึกลับ เงียบขรึม มีไหวพริบ ขี้หึง ขี้ระแวง เกร็งกำไร คิดมาก เอาเปรียบ ตระหนี่ถี่เหนียว เห็นแก่ตัว ขี้อิจฉา คิดมาก

สถานที่.......โรงงานผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับ อาวุธ ทุ่งนา ป่าเขา สถานที่เก่าแก่ ปรักหักพัง ที่เผาศพ ที่ทิ้งขยะ เรือนจำ ถ้ำที่เงียบสงัด ห้องขัง กำแพง ถนน ตึก แถวร้าง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตร องค์การสวนยาง กรมป่าไม้ กรมปศุสัตว์ กรมทางหลวง การรถไฟฯ การทางพิเศษ กรมที่ดิน กรมโยธาฯ กรมแรงงาน อ.ต.ก มหาวิทยาลัยเกษตร การปิโตรเลียม องค์การสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ บ้านพักคนชรา กองทัพบก รักษาดินแดน

โรคภัย.......โรคกระดูก ปวดตามข้อ ลำไส้ ภิมแพ้ ผิวหนัง โรคพยาธิทุกชนิด โรคเส้นประสาท ม้าม สมอง อัมพาต เจ็บหัวเข่า ปวดเมื่อยตามตัว ไข้เซื่องซึม ปวดศรีษะ

สี.......สีทอง สีดำ สีม่วง สีสกปรก สีกระด่างกระดำ
รส........รสเปรี้ยว
กลิ่น.......กลิ่นเหม็นอับ กลิ่นสาบ
แร่........แร่ตะกั่ว นิล
ทิศ........ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ( หรดี )
อักษร.......ด ต ถ ท ธ น
วัตถุ........วัตถุที่ตั้งขึ้นไปสูงๆ ที่ทำด้วยไม้ หิน โบราณ ดินเผา
อวัยวะ....... กระดูก ข้อทั้งหลาย ม้าม เส้นประสาท การพลัดตกหกล้ม ง่วงเหงา เศร้าซึม ต้นขาถึงปลายเท้า ขาอ่อน ทวารหนัก ลำไส้ กระดูก ข้อต่างๆ การง่วงเหงาเศร้าซึม
อุบัติเหตุ.......อุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟ เช่น ไฟไหม้ ไฟลวก ถูกก้อนหินพังทับ ตกภูเขา
เพศ........ชาย
เชื้อชาติ........อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย นิโกร

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การอ่านภพและดาว

การอ่านดาว สำหรับผู้ยังงว่าไม่รู้จะอ่านอย่างไร ลองใช้หลักนี้ อาจมีประโยชน์

1 อ่านดาวไปหาภพ

2 อ่านภพไปหาดาว

วิธีการคือ อ่านดาวผสมภพ

ตัวอย่างดวง

3….4….5….6….7….1….2

7….1….2….3….4….5….6

2….3….4….5….6….7….1

——————————-

12..8..11..14..17…13…9

3 อัตตะ-พันธุ-ศุภะ

1 อ่านดาวหาภพ

3-อัตตะ ดื้อรั้น เชื่อมั่นตัวเอง

3-พันธุ ดิ้นรนต่อสู้เพื่อสร้างหลักฐาน หรือเพื่อ มีบ้านมีรถ

3-ดิ้นรนเพื่อ ความเจริญ หรือ เพื่อจะไปอยู่ต่างถิ่นต่างแดน

2 อ่านภพหาดาว

อัตตะ-3 เจ้าตัวเป็นคนดื้อรั้น ขยัน ต่อสู้ดิ้นรน

พันธุ-3 การสร้างหลักปักฐาน เพื่อให้มี บ้าน รถ ที่ ดิน ต้อง อาศัยความขยัน ต่อสู้ดิ้นรน

ศุภะ-3 โอกาส ความสำเร็จ ต้องอาศัย ความมุมานะ พยายาม ดิ้นรนต่อสู้

สรุปเป็นหลักได้ ดังนี้

- ดูเรือนผสมดาว (ความหมายดาวกับเรือนผสมกัน)

- ดูเรือนผสมธาตุดาว (ดูความหมายเรือนผสมธาตุดาว ดิน น้ำ ลม ไฟ)

- ดูเรือนผสมเรือน (เรือนชะตาสัมพันธ์)

- ดูเรือนผสม ฐาน 4 (ความหมายเรือนผสมฐานที่ 4)

- ดูดาวผสม ฐาน 4 (ความหมายดาวผสมฐานที่ 4)

สมมุติ จับที่ เรือนการงานดาว 4

กัมมะ-ดาว 4 การงานเกี่ยวกับ การเจรจา การค้า ธุรกิจ

กัมมะ-ธาตุน้ำ อาชีพเกี่ยวกับ น้ำมีส่วนผสมของน้ำ

กัมมะ-หายนะ การงานเกี่ยวกับ ของมึนเมา อบายมุข หนีภาษา

กัมมะ-ฐาน 11 การงานที่มี ผู้ให้การสนันสนุนช่วยเหลือ

ดาว 4 ฐาน 11 การงาน การเรียน เอาตัวรอดได้ เหมืิอน มีคนสนะบสนุน ช่วยเหลือ

เคล็ดลับดาวสถิตตามภพ
- 1 ลอยภพได้ ชอบริเริ่มในเรื่องนั้น ๆ
- 2 ลอยภพใด มีความฝันจินตนาการในเรื่องนั้น
- 3 ลอยภพใด ขยัน มุ่งมั่น ดิ้นรน ในเรื่องนั้น
- 4 ลอยอยู่ภพใด มีความสามารถเอาตัวรอดในเรื่องนั้น
- 5 ลอยอยู่ภพใด มีภูมิรู้หรือหลักการในเรื่องนั้น ๆ
- 6 ลอยอยู่ภพใด รัก สะสม ห่วงแหน เรื่องนั้น ๆ
- 7 ลอยอยู่ภพใด คิดมาก ซีเรียสในเรื่องนั้น ๆ
- 8 ลอยอยู่ภพใด หลงผิด หรือผิดพลาด ในเรื่องนั้น ๆ
- 9 ลอยอยู่ภพใด สับสน วุ่นวาย เล็ก ๆ น้อย ๆ ในเรื่องนั้น ๆ

หลักวิชาดาวสถิตย์ตามภพนี้ เป็นระบบโหราศาสตร์ดาวกระจาย ของ อ. เจียระไนย โชคมงคลชัยชนะ เห็นว่านำมาปรับใช้ได้ดีกับเลขเจ็ดตัว จึงลองนำมาเสนอ

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หลักการทายดวงชะตาในเลข 7 ตัว

หลักการทายดวงชะตา

  • จำความหมายดาว 10 ดวงได้
  • ผูกดวง จากวันเดือนปีเกิดได้
  • จำเรือนชะตา ทั้ง 21 เรือนได้
  • รู้จักธาตุ ของดาวแต่ละดวง
  • ทายเรือนชะตาผสมเรือนชะตา
  • ทายเรือนชะตาผสมดาว
  • ทายเรือนชะตาผสมธาตุของดาว

ตัวอย่างดวงชะตา เกิดวัน พฤหัสบดี เดือน 11 ปี เถาะ

๕ ๖ ๗ ๑ ๒ ๓ ๔
๔ ๕ ๖ ๗ ๑ ๒ ๓
๔ ๕ ๖ ๗ ๑ ๒ ๓
————————————————————
๑๓ ๑๖ ๑๙ ๑๕ ๔ ๗ ๑๐
====================================

ในการทายนั้น ถ้าไม่มีหลักการทาย จะทำให้เราติดขัด ไม่รู้จะทายอะไร โดยเฉพาะผู้ที่หัดดูดวง ใหม่ ๆ ถ้าอยู่ต่อหน้า คนมาดูดวง จะ อึกอักพูดไม่ออก ในการทายนั้น เบื้องต้น ให้ทาย 5 เรื่อง ก่อน คือ

  • ตัวตนของเจ้าชะตา ใช้เรือน อัตตะ-ตนุ ในการทาย
  • การเงิน ใช้เรือน กะดุมพะ-ธานัง ในการทาย
  • การงาน ใช้เรือน การงาน-ลาภะ ในการทาย
  • ความรัก ชีวิตคู่ ใช้เรือน ปัตนิ ในการทาย
  • สุขภาพ ใช้เรือน พยายะ-มรณะ ในการทาย


จากดวงตัวอย่าง ดูตัวตนของเข้าชะตา คือ อัตตะ-ตนุ ถ้าเราสามารถเห็นรูปร่างหน้าตาของเจ้าของดวง ให้ ดูว่ารูปร่าง เจ้าของดวงตรงกับตำแหน่งใด เช่น ในดวงนี้ ตำแหน่งอัตตะเป็นดาว พฤหัสบดี (5) ลักษณะรูปร่างตามดาวคือ ขาวท้วม ดูภูมิฐาน อีกตัวคือตำแหน่ง ตนุ ในดวงนี้เป็นดาวพุธ (4) รูปร่างตามลักษณะดาวคือ มะขามข้อเดียว ไม่สูง อกเอวเท่ากัน หน้าตาดี ถ้าเจ้าของดวง มีรูปร่างแบบไหน แสดงว่าดาวดวงนั้นมีอิทธิพล ต่อเจ้าของดวงชะตามาก อย่างดวงนี้ เจ้าของดวงรูปร่าง ขาวท้วม ซึ่งตรงกับเรือนอัตตะ ดางพฤหัสบดี (5) สามารถทายได้ดังนี้

  1. ทายเรือนผสมดาว อัตตะ+ดาวพฤหัส เจ้าของดวงเป็นคน ฉลาด สติปัญญาดี มีคุณธรรม ตามความหมายดาว
  2. ทายเรือนผสมธาตุดาว อัตตะ+ธาตุดิน เจ้าของดวงเป็นคน สุขุม อารมณ์มั่นคง ตามธาตุของดาว
  3. ทายเรือนผสมเรือน ในการทายผสมเรือนนั้น ถ้าคนที่เรียนใหม่ หรืออ่านตำราหลายเล่มอาจจะสับสนไม่รู้จะทายอย่งไร เพราะ ในดวงมีเรือนชะตาที่สัมพันธ์กันทั้ง สามเรือน บางอาจารย์ ก็ทายควบสามเรือนและแปลความหมายออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากถ้าประสบการณ์ไม่เพียงพอ จึงแนะนำให้ใช้เพียงสองเรือนผสมกัน อย่างดวงนี้ สามารถผสมเรือนได้ สองคู่คือ อัตตะ-กะดุมพะ อัตตะ-ศุภะ ส่วน กะดุมภะ-ศุภะ เป็นเรื่องของ การเงินและวาสนา ไม่ใช้เรื่องตัวตนจึงไม่ทายในที่นี้ อย่าสับสน (อัตตะ-กะดุมภะ คือ มีโชคลาภ มีทรัพย์ การเงินดี) (อัตตะ-ศุภะ คือ มีวาสนาดี มีความเจริญ) ซึ่งจะเห็นว่าการทายแยกแบบนี้จะมองเห็นรูปดวงได้ชัดเจน สามารถที่จะประมวลคำพยากรณ์ได้ง่าย อย่างดวงนี้ ถ้าดูอย่างครบกระบวนการ ก็สามารถทายได้ว่า เจ้าชะตา เป็นคน ปัญญาดีมีคุณธรรม ใจคอหนักแน่น มีวาสนาการเงินดี มีโชคลาภ แค่นี้ก็ได้รายละเอียดที่มากพอแล้ว ในระยะฝึกอ่านดวง ยังไม่ต้องไปคำนึงเรื่องความแม่นยำมาก ให้อ่านดวงออกก็พอ แค่เห็นตัวเลขที่ผูกดวง ก็สามารถตีความหมายออกมาได้ จึงจะถือว่าอ่านดวงออก ส่วนเรื่องความแม่นยำ ประสบการณ์จะสอนเราเองเมื่อดูดวงไป หลาย ๆ ดวง


ต่อมาลองมาดูเรื่องการงานบ้าง ในดวงนี้ การงานคือดาว ศุกร์ (6) ตกตำแหน่ง (กัมมะ-สหัสชะ คือ งานต้องพบปะผู้คน และมีการเดินทางไปติดต่อ)( กัมมะ-หายนะ คือ งาน เกี่ยวกับ อบายมุข การพนัน ตามความหมายของ หายนะ) สามารถทายได้ว่า การงานของเจ้าชะตา ต้องเกี่ยวข้องกับอบายมุข การพนัน และต้องพบปะผู้คนตลอดเวลา*** อย่าทายว่า การงานไม่เจริญตกต่ำ เอาดีไม่ได้ เหมือนหลายคนที่ทายแบบนี้เพราะเห็นกัมมะตกหายนะ จะผิดพลาดได้ ความจริงเจ้าของดวงมีอาชีพ ขายหวยใต้ดิน ซึ่งตรงตามลักษณะดวงชะตา และก็ขายดี ตามวาสนา ข้อแรก (อัตตะ-ศุภะ) ได้เงินเป็นกอบเป็นกำตามดวง (อัตตะ-กะดุมพะ)

ข้อต่อไปลองมาดูเรื่องการเงิน ในดวงนี้ตกตำแหน่ง (กะดุมพะ-อัตตะ คือ การเงินเกิดจากตัวเอง ความสามารถตัวเอง เรือนชะตาเดียวกับ [อัตตะ-กะดุมภะ] แต่ทายคนละอย่าง เพราะจุดของเรื่องราวคนละจุดกัน คือ ต้นทาง-ปลายทางไม่เหมือนกัน อย่าสับสน หลายคน ทายมั่วเพราะไม่จับจุด เรื่องราว ต้นทางปลายทาง) อีกตัวคือ (กะดุมพะ-ศุภะ คือ การเงินเกิดจากวาสนา บุญกุศล แต่ถ้าเป็น ศุภะ-กะดุมพะ จะทายว่า วาสนาความเจริญที่จะได้รับ เป็นเรื่อง การเงิน ทรัพย์สิน ) การทายต้องอย่าลืม ตั้งจุดทายให้ถูกต้องอย่าทายสับสนปนเป การทายดาวถ้าจะให้แตกฉาน ให้ใช้ดวงตัวเองดูก่อน เมื่อคล่องแล้วจึงใช้ของ พี่น้อง ญาติ หรือเพื่อน ๆ นาน ๆ เข้าจะชำนาญเอง และสามารถหาอ่านบทวิจารณ์ดวงเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่แนะนำให้เรียนโดยการท่องจำ การผสมเรือนต่าง ๆ เพราะจะทำให้ไม่แตกฉาน แต่ให้ใช้การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ดวงดาวและเรือนชะตา จะทำให้ประสบผลสำเร็จ

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ความหมายของดาว เกี่ยวกับร่างกายของบุคคล

ดาวอาทิตย์ 1 หมายถึง หลอดโลหิตแดง นัยน์ตาขวาของชาย นัยน์ตาซ้ายของหญิง หัวใจ
ดาวจันทร์ 2 หมายถึง ต่อมต่างๆ มดลูก เต้านม น้ำเหลือง
ดาวอังคาร 3 หมายถึง กล้ามเนื้อ คิ้ว จมูก ม้าม น้ำดี ไต เอ็น
ดาวพุธ 4 หมายถึง เส้นประสาท มันสมอง ปอด ข้อศอก ปาก ลิ้น ฟัน และเส้นผม
ดาวพฤหัส 5 หมายถึง ขา ไต หูขวา กระเพาะ เสลด เสมหะ กรามทั้งสองข้าง
ดาวศุกร์ 6 หมายถึง ลำไส้ รังไข่ มดลูก แก้ม คาง ลำคอ อวัยวะสืบพันธ์
ดาวเสาร์ 7 หมายถึง กระดูก ซี่โครง ตับ หูซ้าย น่อง หัวเข่า
ดาวราหู 8 หรือ 12 หมายถึง ตับ หรือ ม้าม

ตามตำราครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้

การพิจารณาดวงชะตาเกี่ยวกับสุขภาพ ท่านให้พิจารณาที่ ภพอัตตะ ภพตนุ และดาวเสาร์ 7 ถ้าดาวในภพอัตตะและตนุ รวมถึงดาวเสาร์ ไม่ชนเสีย และฐานรองรับดี ดวงชะตานั้นท่านว่ามีสุขภาพแข็งแรง (อายุยืน) ตรงข้าม หากดวงชะตาใดมี ดาวในภพอัตตะ ตนุ และดาวเสาร์ 7 ชนเสีย หรือฐานรองรับไม่ดี ย่อมทำให้สุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรง

ถ้ามีข้อเสนอแนะอื่นๆ ก็ขอเชิญร่วมเสวนาได้นะครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

เลข 7 ตัว กับการดูคู่ครองหรือคนรัก

เลข 7 ตัว มีหลักการพยากรณ์คู่ครองหรือคนรัก ดังนี้

1 ให้ดูภพปัตนิ ว่าเป็นดาว ศุภเคราะห์ หรือ ดาวบาปเคราะห์ และ อยู่ที่ ภพ ฐาน การสัมพันธ์ของดาว ทักษาเดิม และ กาลโยคเดิม ว่าดีหรือเสีย

2 ในดวง หญิง ให้ดูดาว อาทิตย์ ด้วยว่าอยู่ที่ ภพ ฐาน การสัมพันธ์ของดาว ทักษาเดิม และ กาลโยคเดิม ว่าดีหรือเสีย เช่นในดวงนี้ ดาว 1 อยู่ภพ มรณะ อาจจะไม่ดี
หรือ ต้องได้กับพ่อหม้าย หรือ ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกัน หรือ เป็น ชาวต่างชาติ ต่าง ศาสนา ต่าง ภาษา หรือแฟนมีอาชีพเป็น หมอ หรือ ทำงานด้านรักษาโรค หมอดู ขายยา ขายประกัน ช่าง วิศวะ ข้าของเก่า ก็จะบรรเทาไปได้

3 ในดวง ชาย ให้ดูดาว จันทร์ ด้วยว่าอยู่ที่ ภพ ฐาน การสัมพันธ์ของดาว ทักษาเดิม และ กาลโยคเดิม ว่าดีหรือเสีย

4 ให้ดูหลักที่ 7 ของดวงชะตา คือภพ มัชฌิมา ปัตนิ ทาสี ฐาน การสัมพันธ์ดาว ว่ามีดาวที่ ส่งเสริม หรือบั่นทอนกัน เช่นในดวงนี้ ภพ มัชฌิมา ปัตนิ ทาสี ฐาน คือ 5 5 7 ฐาน 17 ให้จับคู่ดาว 5 กับ 7 อ่านว่า เป็นคู่พระ คู่โจร ไม่ค่อยดี และฐาน 17 ให้ตามดูดาว พุธ สัมพันธ์ ลาภะ อริ โภคา อย่างนี้ ก็ถือว่าไม่ดี เพราะติด อริ เป็นต้น

5 ให้ดูดาวประจำวันเกิด คือ อัตตะ นำไปจับคู่กับดาวภพ ปัตนิ ว่าเป็นคู่ดาวที่ ส่งเสริม หรือบั่นทอนกัน เช่นในดวงนี้ อัตตะ คือ 6 และ ปัตนิ คือ 5 ถือว่า เป็นคู่ทรัพย์คู่โชค(ดี) แต่ ดาว 5 สัมพันธ์ พยายะ อาจดีไม่จริง

6 ให้ดูดาวศุกร์ ซึ่งมีความหมายถึง ความรัก ความสุข ว่าอยู่ที่ ภพ ฐาน การสัมพันธ์ของดาว ทักษาเดิม และ กาลโยคเดิม ว่าดีหรือเสีย ด้วย

7 ให้ดูภพ ปุตตะ ซึ่งแปลว่า ความรัก ความรื่นเริง รักแรกพบ หรือแฟนคนแรก ว่าอยู่ที่ ภพ ฐาน การสัมพันธ์ของดาว ทักษาเดิม และ กาลโยคเดิม ว่าดีหรือเสีย ด้วย

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

มัชฌิมา ปัตนิ พยายะ หมายความว่าอย่างไร

มัชฌิมา หมายถึง ปานกลาง พอประมาณ 50/50 ครึ่งๆกลางๆ ไม่แน่ไม่นอน ชู้หรือกิ๊ก การมองหาแนวทางใหม่ ไม่เติมร้อย เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไปๆมาๆ ไม่จริงไม่จัง เสมอตัว ไม่ค่อยจะทุ่มเท การรู้จักประมาณตน ไม่กระตือรือร้น กิ๊กที่อายุมากกว่า การมีน้อย(ไม่มาก) ไม่เติมใจ100% ไม่เอาใจใส่ ไม่ค่อยแคร์ ไม่ถือตัว ง่ายๆไม่เรี่องมาก สมถะ ไม่เริดหรู แฟนคนแรก

ปัตนิ หมายถึง คู่ครอง คนรัก แฟน คู่สัญญา คู่ค้า คู่กรณี หุ้นส่วน การร่วมมือ การเล่นหุ้น เพศตรงข้าม ฝ่ายตรงข้าม ลูกคนที่สอง การแต่งงาน ธุรกิจหาคู่ ธุรกิจด้านแต่งงาน คู่ชีวิต

พยายะ หมายถึง บิดบัง ซ่อนเล้น ไม่เปิดเผย ลับๆล่อๆ หรือล่อในที่ลับๆ เบื้องหลัง ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย เจ้าเล่ห์ กลโกง อุบาย ลอบทำร้าย ไม่ซื่อ คดีความ คุกตาราง ความโลภ หลอกลวง ความลุ่มหลงมัวเมา โรคที่รักษาไม่หาย โรงพยาบาล ร้านขายยา ส้วม ขยะ สิ่งโสโครก ของเหม็น ไสยศาสตร์ ถูกคุณไสย ผี วิญญาน ถูกผีเข้า ศพ การพนัน อบายมุข อาบอบนวด ม่านรูด โรคที่หาสาเหตุไม่เจอ เมียน้อย สามีน้อย กินน้ำใต้ศอก ไม่สมบูรณ์แบบ พิการ ขี้โรค วิปริต ยาเสพติด โหราศาสตร์ การรักษาโรค ศาสตร์ลี้ลับ มนต์ดำ การทำเสน่ห์ การถูกของ เจ้าที่มายากล ต้มตุ๋น ของแปลกปลอม ของปลอม ของเลียนแบบ โรคมะเร็ง โรคเอดส์ โรคที่รักษาหายยาก ตำหนิ ใฝปาน ความเสียหาย ความตาย การซ่อมแซม คนทรงเจ้า ซิกเซ็นต์ ลางสังหรณ์ ความฝัน การได้รับการสนับสนุน เบื้องหลัง ผู้กำกับ งานเบื้องหลัง ประกันภัย ของเสีย พัง ชำรุด ทรุดโทรม ป่าช้า บ้านร้าง สยดสยอง น่ากลัว หวาดเสียว แปลกประหลาด สัตว์ประหลาด พิลึกกึกกือ ผิดธรรมชาติ แหวกแนว ไม่เหมือนคนอื่น ไม่ซำซาก การวินิตฉัย การวิจัย ความแปรปรวน โรคประสาท คนบ้า เสียสติ ท่อน้ำทิ้ง สิ่งปฏิกูล มลภาวะเป็นพิษ การขายส่ง นักสืบ ที่ปรึกษา ภัยพิบัติต่างๆ อุบัติเหตุ พวกที่เป็นตุ๊ด เกย์ ทอม ดี้ (ผิดธรรมชาติ) วิตถาร ของเก่า ของโบราณ ของรีไซเคิ้ล อวัยวะเทียม สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เชื้อโรค เงา หลุมดำ สีดำ ยามคำคืน การเฉียดตาย ห้อง ICU ห้องดับจิต การชันสูตร ความรกรุงรัง ของหมักดอง(เช่น เหล้า ปลาร้า ของดองต่าง) การแปรรูป ภาพโป้ หนัง X ของเถื่อน ของหนีภาษี กลิ่นตัว ความลับ การใช้เส้นสาย การรู้จักเป็นการส่วนตัว มีโลกส่วนตัว ความเป็นส่วนตัว การปลีกวิเวก สันโดษ การนั่งมสาธิ อสุภะกรรมฐาน ความเปลี่ยวเหงา โรคซึมเศร้า การคิดฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตาย การถูกรอบฆ่า ความผิดหวังต่างๆ การไม่ประสบความสำเร็จ ขี้คุก

สรุป มัชฌิมา ปัตนิ พยายะ หมายถึง

1 คู่ครองมักทำตัวไม่แน่ไม่นอน และมักมีเรื่องบิดบังซ่อนเล้นไม่เปิดเผย
2 ชีวิตคู่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่งเหมือนไม่แต่ง มีเหมือนไม่มี หรือล้มเหลวในชีวิตคู่
3 คู่ครอง มีคนอื่น ต้องไปๆ มาๆ สองบ้าน
4 คู่ครองมักขี้โรครักษาไม่หาย หรือ เป็นๆ หายๆ
5 ได้ตัวแต่ไม่ได้ทะเบียน ได้ทะเบียนแต่ไม่ได้ตัว
6 คู่ครอง ถูก เสน่ห์ หรือ คุณไสย์
7 คู่ครอง เป็นหมอทำเสน่ห์ หรือหมอดู หรือทำงานด้านรักษาโรค
8 คู่ครอง มักไม่ค่อยรับผิดชอบ และติดยา หรือ การพนัน หรือ เจ้าชู้ หรือเป็นหม้าย
9 คู่ครอง เป็นนักสืบ ช่างซอม หมอ หมอดู สัปหร่อ หมอเสน่ห์ เจ้าของโรงแรมม่านรูด ขายของเก่า ขายยา นักมายากล ฯลฯ

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของเรือนชะตาในเลข 7 ตัว

เรื่องเลขเจ็ดตัวนั้นผมก็จะเขียนไปเรื่อยๆก่อนนะครับ เริ่มจากพื้นฐานก่อน เนื้อหาบางส่วนนั้น ผมก็ได้มาจากเว็บแหละครับ บางส่วนก็ได้จากตำราที่มี

อัตตะ คือ ตัวเจ้าชะตา อัตตะ เป็นความหมายในภาคจิตใจ ความรับรู้ ความนึกคิด สภาวะที่เกี่ยวกับตนเองตั้งแต่กรรมกำเนิด
หินะ คือ ความชั่วร้าย ตำหนิ ความทุกข์เข็ญ เดือดร้อน
ธนัง คือ ทรัพย์สิน เงินทอง แก้วแหวนเงินทอง ของมีค่า เงินหมุนเวียนก็ได้
ปิตา คือ พ่อ ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชาย เจ้านายที่เป็นผู้ชาย หัวหน้าครอบครัว
มาตา คือ แม่ ผู้ใหญ่ผู้หญิง เจ้านายผู้หญิง บางที่ก็หมายถึงอารมณ์ของเจ้าชะตาด้วย
โภคา คือ ที่ดิน ที่อยู่อาศัย ถิ่นฐาน อสังหาริมทรัพย์ แร่ธาตุในดิน อัญมณี หินกรวดทราย ก็ได้
มัชฌิมา คือ พอประมาณ ปานกลาง คู่ชู้ บางที ก็หมายถึงช่องทาง หรือโอกาส อาจจะเป็นช่องทางทำกิน

ตนุ คือ เจ้าชะตา นิสัยที่แสดงออก ลักษณะ รูปทรง บุคลิกภาพ
กดุมภะ คือ ทรัพย์สินเงินทอง ตั๋วเงิน สิ่งที่ใช้แทนเงิน บางทีก็หมายถึงมรดก
สหัชชะ คือ เพื่อน การติดต่อสื่อสาร ยังเป็นการเดินทางได้ด้วย
พันธุ คือ ญาติ ครอบครัว
ปุตตะ คือ เด็ก ลูก หลาน น้อง การริเริ่มโครงการใหม่ๆ รักครั้งแรกก็เรียก
อริ คือ ศัตรู คดีความ มีเรื่องมีราว
ปัตนิ คือ คู่ครอง หุ้นส่วน คู่กรณี ผู้มีส่วนได้เสียผลประโยชน์กับเจ้าชะตา

มรณะ คือ การเปลี่ยนแปลง ความตาย การพลัดพราก สูญเสีย การเดินทางใกล้ๆ
สุภะ คือ เกิยรติยศยศ ชื่อเสียง ความดีงาม เครดิต การค้ำประกัน บางที่ตีความว่า เป็นโลกหน้าด้วย
กัมมะ คือ หน้าที่การงาน กรรมที่ผูกพันกันมา
ลาภะ คือ เงิน โชคลาภ
พยายะ คือ การเบียดเบียน ความพยาบาท โรคภัยไข้เจ็บ
ทาสา คือ บริวารผู้ชาย ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อผู้อื่น
ทาสี คือ บริวารผู้หญิง เจ้าของกิจการ ความเหน็ดเหนื่อยเพื่อตัวเอง
ทาสาและทาสี มักใช้สลับกัน บางครั้ง ถ้าทายผู้หญิงก็เป็นทาสีและทาสา ถ้าทายผู้ชายก็ใช้ทาสาและทาสี