วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ดาวจันทร์ (๒) ราชินีแห่งดวงดาว

ดาวจันทร์ ๒ ราชินีแห่งดวงดาว

ธรรมชาติ.....เป็นธาตุดิน อันอุดมสมบูรณ์ ดินชั้นดี ดินที่ซึ่งมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา เป็นดินซึ่งก่อให้เกิดพืชพันธุ์ ผัก ผลไม้ และอื่น ๆ อันอุดมสมบูรณ์ โดยมีความแตกต่างกับธาตุดินพฤหัสบดี คือเป็นดินที่แข็งและแห้งแล้ง ขาดน้ำหล่อเลี้ยง ดาวจันทร์โดยธรรมชาติแล้วนั้น เป็นดาวศุภเคราะห์ และเป็นดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นบริวารดวงเดียวของโลกที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ฉะนั้นควรที่ศึกษาและจดจำไว้ให้ดีนะครับ ในเรื่องของความหมาย และรายละเอียด สาเหตุดังที่ได้กล่าวแล้วว่าเป็นบริวารที่ใกล้โลกมนุษย์ที่สุด ฉะนั้นเป็นที่แน่นอนย่อมที่จะมีอิทธิพลต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก

ด้านที่ดี.....แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน นุ่นนวล ใจคอบริสุทธิ์ ดูดีมีเสน่ห์ ไม่ชอบขัดอกขัดใจใคร หรือผู้ใด เด่นในเรื่องของความสวยงาม ความคิดฝัน ความอ่อนไหว การที่มองโลกในแง่ที่ดี การใส่ใจ และการบริการดูแล การให้ความช่วยเหลือ การเข้าใจในความรู้สึก การมีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมโลก เอาใจใส่ในความทุกข์ และความสุขของผู้อื่นได้ดี

ด้านที่เสีย.....ความอ่อนไหว อ่อนแอ หูเบา เชื่อคนง่าย ตื่นตกใจง่าย ขลาดกลัว มีลักษณะที่เหมือนคนเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ ใจน้อยขี้ง่อน น้ำตาร่วงง่าย อารมณ์เร็วแปรเปลี่ยนกลับไปกลับมาไม่แน่นอน ชอบคิดเพ้อฝัน แต่ไม่ทำความคิดที่ได้จินตนาการไว้ให้ประสบความสำเร็จ คือการที่คิดได้ แต่ไม่ยอมทำเสียที ( เป็นคนที่ชอบสร้างวิมานในอากาศ )เมตตากรุณษจนกระทั่งต้องตกอยู่ในความเดือดร้อน ประเภททำคุณคนไม่ขึ้น จิตใจขาดความมั่นคง โลเลใจได้ง่าย ไม่แน่นอนกับใคร เอาใจยาก คิดอย่างทำอย่าง คิดเกินขอบเขตทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นยังไม่เกิด ถือเป็นประเภทกระต่ายตื่นตูม ตีตนไปก่อนไข้

บุคลิกภาพ.....ดูแล้วสุภาพเรียบร้อย น่ารักน่าเอ็นดู ดูดี รักความสะอาด มีอนามัยที่ดี ทำการสิ่งใดด้วยความเรียบร้อย จากการที่ตัวกระผมได้สังเกตมาแล้วนั้น ดาวจันทร์ ๒ จะมีบุคลิกเป็นผู้หญิงสาวโดยแท้ อ่อนโยนยิ้มหวาน ตาวาวมีความสดใสอยู่ในดวงตา มีสกุลและมารยาทที่ดีสมเป็นกุลสตรี และถ้าเป็นชายก้จะดูมีอริยาบถ หรืออาจจะแสดงผลออกมาในด้านการแต่งตัว การคุย ท่าที การนั่ง การเดิน ออกจะดูสุภาพนิ่ม ๆ ดูดี ดูเนี๊ยบ ๆ ในทุกจังหวะที่ได้ดำเนินไป

ความหมายโดยทั่วไปของดาวจันทร์ ๒

๑. คำกลอน.....ทายรูปร่าง และจริตให้ทายจันทร์ ๒ เนื่องจากดาวจันทร์ เป็นดาวแห่งอารมณ์และความ
อ่อนไหวได้ง่าย มีจริตที่ปรวนแปรได้ง่าย และเร็วที่สุด เมื่อเทียบกับดาวต่าง ๆ แล้ว คำว่า..รูปจริตให้ทายจันทร์ ๒ ดังคำกลอนที่ครูท่านกล่าวไว้ไม่ผิดจริง ๆ ครับ

๒. อุปนิสัย.....สุภาพ อ่อนโยน ดูเรียบร้อย จิตใจงาม รักสวยรักงาม รักง่ายหน่ายเร็ว น้ำตาร่วงง่าย มีเมตตาธรรม ขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ใจน้อย สะเทือนอารมณ์ได้ง่าย อารมณ์เปลี่ยนแปลงได้เร็ว ฝันเฟื่อง โลเลขาดความเชื่อมั่น มีอารมณ์ความนึกฝันไปตามสภาวะแวดล้อมไม่แน่นอน

๓. สิ่งของ.....ของเหลว ของบอบบาง ของนุ่มนิ่ม ของเบาบาง สิ่งโปร่งแสง เช่น แก้ว กระดาษ น้ำ ดาวจันทร์เป็นดาวที่อ่อนโยนอ่อนไหวได้ง่าย อ่อนนุ่มในด้านจิตใจ เพราะฉะนั้นถ้าจะว่าในเรื่องของสิ่งของแล้ว นับว่าดาวจันทร์นั้นเป็นสิ่งของที่อ่อนนุ่มบอบบาง สามารถแตกหักเสียหายได้ง่าย เช่น กระดาษ สำลี กระจกเงา แก้วน้ำ ภาชนะที่เป็นแก้ว ผ้าไหม เส้นใย ยานพาหนะ รถ เรือ แพ เป็นต้น...

๔. สีประจำดาว.....สีขาว สีเหลือง สีครีม สีออกนวล ๆ สีที่สว่างนวล ๆ

๕. อวัยวะ.....ได้แก่ ระบบน้ำ ๆ ระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย กระเพาะอาหาร ต่อมต่าง ๆ น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเลี้ยงข้อกระดูก การรับรส ระบบขับถ่าย ไต ดี เต้านม หน้าอก น้ำย่อย เลือดลม ผิวพรรณ รังไข่ ระบบประสาท ดวงตา

๖. โรคภัย.....โรคกระเพาะอาหาร ระบบน้ำย่อย ระบบทางเดินอาหาร รังไข่ ประจำเดือน เบาหวาน ซีส ต่อมน้ำเหลือง เต้านม ระบบฮอร์โมนผิดปกติ ระบบของเหลวในร่างกายผิดปกติ ระบบต่อมต่าง ๆ ที่ทำงานผิดปกติ จึงทำให้มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็ง ภูมิแพ้ เอดส์ เบาหวาน หรือโรคต้อตา ต้อกระจก ต้อหิน ฯ...

๗. เพศ.....ได้แก่ เพศหญิง เพราะดาวจันทร์ ๒ ถือว่าเป็นดาวศุภเคราะห์ที่มีภาวะที่นุ่มนวล อ่อนหวาน มีจริตมารยา พระอิศวรท่านได้สร้างพระจันทร์เทวามาจากนางฟ้า นางสวรรค์ จึงเป็นเพศหญิง

๘. อาชีพการงาน.....ได้แก่ งานที่เกี่ยวกับสตรี และเด็ก เป็นงานที่เกี่ยวกับการสังคมทั้งหลาย การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก การทำงานเพื่อสังคม และส่วนร่วม ข้าราชการ ทหารเรือ นักสังคมสงเคราะห์ สตรีที่มียศบรรดาศักดิ์ นางพยาบาล ผดุงครรภ์ บุรุษพยาบาล โรงพยาบาลหญิง โรงพยาบาลเด็ก พี่เลี้ยงเด็ก อาชีพบริการ พนักงานต้อนรับ พนังานขับรถ รวมทั้งผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับ การท่องเที่ยว ยานพาหนะ รถ เรือ แพ กิจการทางน้ำ โรงน้ำแข็ง ร้านขายเครื่องดื่ม โรงงานผลิตน้ำดื่ม การกระปา การขนส่งต่าง ๆ การเดินเรือ การประมง ฯลฯ...

๙. อักษร.....มีอักษรคือ ก ข ฃ ฅ ค ฆ ง ขอให้จดจำไว้ว่าตัวอักษรต่าง ๆ ของดาวจันทร์ ๒ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของพยัญชนะไทย ตั้งแต่ตัวแรก คือ กอไก่ ไปจนถึง งองู นะครับคุณพี่

๑๐. ธาตุ.....เป็น ธาตุดิน และยังครองตำแหน่งต้นของแม่ธาตุดิน อันเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ ดินที่ชุ่มน้ำ ดินชนิดที่ดี ที่สามารถเป็นบ่อเกิดให้กับพืชพันธุ์ ผลหมากรากไม้ทั้งมวลให้ได้เจริญเติบโต ถือว่าเป็นดินที่ให้ชีวิต และแหล่งพักพิงอาศัยในการคงอยู่ของมนุษย์ และหมู่สัตว์ต่าง ๆ นา ๆ ชนิด เช่น..ดินที่ลุ่มเหมาะแก่การเพราะปลูกพืชพันธุ์ การเลี้ยงสัตว์ การที่อยู่อาศัย ดินปากแม่น้ำ ดินเลน ฯลฯ..

๑๑. สัญลักษณ์.....ทางโหราศาสตร์ไทยใช้ตัวเลขไทย คือ ๒

๑๒. ทิศทาง.....ทิศตะวันออก หรือทิศบรูพา ตามหลักของไทย

๑๓. กำลังดาว.....มีกำลังดาวเท่ากับ ๑๕ เพราะพระจันทร์เทวาสร้างขึ้นมาจากนางฟ้า ๑๕ นาง

๑๔. สัญชาติ.....เป็นชนชาติที่มีผิวขาว ผิวขาวเหลือง เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม ( เดิมเป็นฝรั่ง )

๑๕. คู่มิตร.....ถือเป็นคู่มิตรกับดาว พุธ ๔ เพราะชาติเวรได้กล่าวไว้ว่า ดาวพุธได้เกิดเป็นสุนัขเข้าช่วยเหลือ ดาวจันทร์ ๒ จากอันธพาล ( เจ้าหนี้ ) คือ ดาวราหู ๘

๑๖. คู่ธาตุ.....ถือเป็นคู่ธาตุกับดาวพฤหัสบดี ๕ เพราะเป็นธาตุดินด้วยกันทั้งคู่ครับ ต่างกันที่เพียงแต่ว่าเป็นดินอุดมสมบูรณ์ กับดินที่แห้งแล้ง ( พฤหัส ๕ เป็นดินแข็ง ที่แห้งแล้ง )

๑๗. คู่สมพล.....เป็นคู่สมพลกับดาวราหู ๘ เพราะดาวจันทร์ มีกำลังเท่ากับ
๑๕ ส่วนดาวราหู มีกำลังเท่ากับ ๑๒ คู่ดาวใดที่มีกำลังรวมกันได้ ๒๗ ดาวคู่นั้นจึงจะถือว่าเป็นคู่สมพลครับ..

๑๘. คู่ศัตรู.....เป็นคู่ศัตรูกับดาวพฤหัสบดี ๕ ตามดาวคู่ชาติเวร ที่มีเล่ากันมาแต่โบราณ ที่ถือว่าเป็นคู่พ่อ – ลูก ที่ลูกนั้นโกรธพ่อ งอนพ่อที่พ่อไม่เข้าข้างตัวไปเข้าข้างคนอื่นแทน ( ไม่ถือว่ารุนแรง )

๑๙. ภาวะ.....เป็นดาวศุภเคราะห์ ศุภะ คือคุณงามความดี สังเกตได้จากตัวเลขจะต้องเป็นเลข คู่ ยกเว้นเพียงดาว ราหู เท่านั้น หรือให้จำในช่องกลางของตารางทักษาอันได้แก่..๒ ๔ ๕ ๖ ครับ

๒๐. พระประจำวัน.....เป็นปางห้ามญาติ ( เป็นองค์ยืนที่ยกพระหัตถ์ข้างเดียว )

๒๑. เลขเบอร์.....เลขประจำคือเลข ๒ , ๑๑ , ๒๙ , ๓๘ , ๔๗ , ๕๖ , ๖๕ , ๗๔ , ๘๓ , ๙๒ , ๑๐๑ , ๑๑๐ , ๑๑๙ , ๑๒๘ เป็นต้น...

๒๒. บุคคล.....ได้แก่ สตรี และเด็ก สตรีที่มียศบรรดาศักดิ์ ผู้หญิงที่เป็นนักปกครอง พระราชินี นางพยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ นักประพันธ์ ชาวประมง แม่ค้า หรือตัวบุคคลที่ประกอบการเพื่อส่วนรวม เพื่อสังคม เป็นบุคคลประเภทชอบการบริการผู้อื่น ใส่ใจผู้อื่น ฯลฯ..

๒๓. สถานที่.....โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ ท่าเรือ ทะเล แม่น้ำ คลินิค สำนัก มูลนิธิ ตลาด สถานสงเคราะห์เด็กต่าง ๆ บ้านหรือสถานที่ใกล้น้ำ บ่อน้ำ บึง หนอง คลอง ห้วย ร้านขายเครื่องดื่ม โรงงานทำน้ำแข็ง ร้านขายสัตว์น้ำ คณะประมง คณะพยาบาลศาสตร์ บริษัททัวร์ต่าง ๆ อู่ต่อเรือ ฯลฯ..

๒๔. รูปร่าง.....ผิวขาว หรือผิวขาวเหลือง แก้มใหญ่ อวบ ๆ หน้าผากนูนกลม ตาสวย มีแววหยาดเยิ้ม

๒๕. อัญมณี.....เพชร ไข่มุข โอปอล์ ไม่ว่าจะเป็นอัญมณี หรืออาภรณ์ชนิดใดก็ตามจะต้องออก สีขาว สีเหลือง สีนวล ที่สามารถมองดูแล้วสบายตา อบอุ่นน่าจับต้อง

๒๖. รสชาติ.....รสเค็ม ๆ รสกร่อย ๆ เช่น น้ำทะเล น้ำปากแม่น้ำที่ติดทะเล

ดาวอาทิตย์ (๑) ราชาแห่งดวงดาว

ดาวอาทิตย์ ๑ ราชาแห่งดวงดาว

ธรรมชาติ.....เป็นธาตุไฟอันรุ่งโรจน์โชติช่วง รุนแรง ฉับพลัน เป็นไฟอันสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ธรรมชาติของดวงอาทิตย์นั้นย่อมแข็งแกร่งเข้มแข็ง จริงจัง ร้อน ว่องไว เฉียบขาด กล้าแกร่ง ทำลายล้างได้ถ้าร่วมกับดาวที่เป็นคู่ศัตรูครับ

ด้านที่ดี.....ความมีเกียรติ มีวาสนา รักชื่อเสียง และศักดิ์ศรี มีอำนาจมากบารมี มักที่จะมีจิตใจใฝ่สูง มีทิฐิมานะดี เอื้ออารี ผู้ใหญ่เมตตา เจรจาอาจหาญ โกรธง่ายหายเร็ว ทำคุญคนไม่ขึ้น ได้ดีมีหลักฐานด้วยการสร้างตนเอง ทุกข์ใจเพราะชอบอาสาผู้อื่น เจ้าชู้แต่เกรงกลัวคู่ มีความเชื่อมั่นสูง แข็งแกร่ง และตรงไปตรงมา รักอิสระ เจ้าระเบียบ มีความรับผิดชอบสูง เป็นคนที่เปิดเผย เด่นทางอาชีพราชการ เป็นผู้นำที่ดี รักความก้าวหน้าและมีความทะเยอทะยานที่สูง รวมทั้งมีลักษณะของความงามทุก ๆ เวลา นั่ง เดิน ยืน หรือนอน ( โปรดเปรียบเทียบกับความเป็นเจ้าป่าของราชสีห์ทั้ง ๖ ตัวที่กำเนิดเป็นพระอาทิตย์เทวา )

ด้านที่เสีย.....มีความหยิ่งจองหอง ถือดีถือตัว ใจร้อนไม่ฟังใครห้ามปราม รักสบายจนขี้เกียจได้ง่าย หัวหมอ อับวาสนาถ้าทำงานทางราชการ หลงตัวเอง ก้าวร้าวเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ใฝ่สูง ไม่ชอบทำงาน ไม่ชอบการบังคับ หรือรับบัญชาจากใคร ขี้คุยสร้างภาพ อวดตัว บางครั้งชอบยกตนข่มท่าน ตัวกูดี ตัวกูเด่น ตัวกูเก่ง ตัวกูไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้นทั้งนั้นครับ

บุคลิกภาพ.....ความมีสง่าผ่าเผย ดูภูมิฐาน น่าเคารพนับถือ น่ายำเกรงยิ่งนัก มองดูแล้วมีอำนาจ และต้องลักษณะองอาจดูดีด้วย ไม่ชอบออกแรงทำงานที่ไม่ถูกต้อง หรือขัดใจตัว ขัดต่อความรู้สึกความถูกต้องที่ควรจะเป็น ทำอะไรจะต้องดูเนียบดูดีในทุก ๆ อย่างครับ

ความหมายโดยทั่วไปของดาวอาทิตย์ ๑

๑. คำกลอน.....ทายยศศักดิ์ให้ทายอาทิตย์ ๑ ( สร้างจากราชสีห์ ) ผู้ที่เป็นเจ้าป่าตามตำนาน ได้สร้างโดยพระอิศวรผู้ที่เป็นเจ้าแห่งเทวราชทั้งหลายทั้งปวงครับ

๒. อุปนิสัย.....เป็นผู้ที่รักอิสระเสรีเป็นที่สุด รักชื่อเสียง ใจคอกว้างขวาง โอบอ้อมอารี ดูดีมีสง่าผ่าเผย เปิดเผยตรงไปตรงมา เชื่อมั่นในตนเอง บางครั้งก็ใจร้อนได้ รุนแรง ใจเร็ว ทะเยอทะยานรักอนาคต เป็นผู้นำโดยนิสัย มีความกระตือรือร้นสูง รักความยุติธรรม ไม่ชอบง้อใคร มีความเป็นตัวของตัวเอง มีความตื่นตัวอยู่เสมอในทุกภาวะของเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นก็ได้ครับ ( อุปนิสัยของดาวอาทิตย์นี้ โปรดสังเกตจากลักษณะนิสัยของราชสีห์ก็ได้ เพราะท่านครูโหราจารย์ ท่านได้ยกเปรียบเทียบไว้ให้พิจารณา )

๓. สิ่งของ.....สิ่งของที่มีแสงในตัวเอง เช่น หลอดไฟ กระแสไฟ เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นสิ่งของที่มีพลังงานในตัวเองอีกด้วย เช่น ถ่ายไฟฉาย กระแสแม่เหล็ก ตลอดจนแหล่งความร้อนทั้งหลาย ถ่ายไฟที่อยู่ในเตา แว่นตา เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คฤหาสน์ บ้านที่เด่นสง่า บ้านที่มีแสงสว่างมาก ๆ บ้านที่หรูหราดูสวยงามมากค่า เครื่องประดับตกแต่งที่มีราคาแพง เป็นต้น...

๔. สีประจำดวงดาว.....สีแดง สีเลือดหมู แดงสด แดงทับทิม แดงอิฐที่นำมาก่อสร้างก็ได้ หรือจะแดงเข้ม แดงอ่อนก็ไม่ผิด แต่ขอให้มีสีแดงเป็นสีหลักเท่านั้นเองครับ

๕. อวัยวะ.....ส่วนที่เป็นอวัยวะของร่างกายนั้น ขอให้นึกคิดถึงคำว่าแสงสว่างเข้าไว้นะครับ โดยถ้าจะเปรียบเทียบแล้วก็ได้แก่... ดวงตา นั้นเองครับ ส่วนเรื่องของพลังงานแล้วสิ่งที่ให้พลังงาน แห่งร่างกายนี้ที่อยู่ได้ก็เพราะการที่ทำให้มีลมหายใจได้นั้นก็คือ... หัวใจ อีกทั้งยังได้หมายถึงสีแดงด้วยครับ นั้นก็คือ... เลือด ที่นำและขับเคลื่อนลำเลียงโดยระบบสูบฉีดโลหิต หลอดเลือด แหล่งความร้อน ความอบอุ่นของร่างกาย ระบบการนำประสาททั้งหมด และ กระดูกสันหลังครับ

๖. โรคภัย.....โรคที่เกี่ยวกับสายตา ดวงตา เลือด เลือดลม เลือดจาง เลือดไม่แข็งตัว การติดเชื้อในกระแสเลือด ความผิดปกติในเม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดง ความดันสูง หรือความดันต่ำก็ได้ทั้งนั้นครับ ทั้งยังเกี่ยวกับโรคหัวใจอีกด้วย เช่น โรคหัวใจโต หัวใจล้มเหลว หัวใจรั่ว กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง เส้นเลือดอุดตัน กระดูกสันหลังมีปัญหา ความเคลียด ระบบนำประสาทต่าง ๆ อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ...ครับ

๗. เพศ.....ได้แก่เพศชาย เพราะดาวอาทิตย์ ๑ ถือว่าเป็นเลขดาวบาปพระเคราะห์ ที่แสดงออกในความเข้มแข็ง หนักแน่น ถือเกียรติ ไม่ยอมอะไรง่าย ๆ และยังบอกถึงความเป็นผู้นำ ที่เราเรียกกันว่า พระราชา อีกด้วยครับ

๘. อาชีพการงาน.....ได้แก่งานที่คอยรับใช้พระราชา หรือพระมหากษัตริย์นั้นก็คือ...อาชีพข้าราชการ การรับใช้ชาติ และแผ่นดิน งานที่มีเกียรติทั้งหลาย งานที่มีตำแหน่งที่ดีเด่น หรืองานส่วนตัวที่เป็นผู้ลงทุนเอง ทำเอง งานที่อิสระ ห้างร้าน บริษัท แต่ต้องเป็นงานที่มีหน้ามีตา มีการยอมรับและดูดี จัดอยู่ในขั้นที่สามารถเลือกที่จะทำงาน ดังนี้...ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักการเมือง คหบดี เจ้าของกิจการที่มีขนาดใหญ่ พนักงานบริษัทต่าง ๆ ห้างร้านใหญ่ ๆ แต่ต้องเป็นผู้นำ หรือผู้บริหาร เจ้าของร้านทอง เจ้าของร้านเพชร พลอย อัญมณี รวมทั้งผู้ที่ประกอบการกิจการที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า วัตถุที่มีแสง มีพลังงาน เทคโนโลยีสมัยใหม่ ฯลฯ...ครับ

๙. อักษร.....ได้แก่อักษร อ และ ตัวสระทั้งหลายที่มีอยู่ในภาษาไทย ยกเว้นวรรณยุกต์ ได้แก่ ตัวการันต์ ( อ์ ) ไม้หันอากาศ ( อั ) ที่เป็นอักษรลดรูป ลดเสียงครับ

๑๐. ธาตุ.....เป็นธาตุไฟ และยังเป็นต้นของแม่ธาตุ ไฟ อันร้อนแรง สามารถเผาผลาญสิ่งทั้งปวงได้อย่างรวดเร็ว ฉับพลัน รุนแรง รุ่งโรจน์ที่สุด นับเป็นไฟที่เกิดจากแหล่งกำเนิดอันยิ่งใหญ่ เช่นดวงอาทิตย์ เป็นต้น

๑๑. สัญลักษณ์.....ทางโหราศาสตร์ไทยใช้ตัวเลขไทย คือ.....๑

๑๒. ทิศประจำ.....ได้แก่ทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศ อีสาน ตามหลักของไทยครับ

๑๓. สัญชาติ.....เป็นชาติผิวแดง บ้างก็ผิวดำก็มี มีจมูกโด่ง ซึ่งตำราทั่วไปส่วนมากได้ระบุไว้เลยว่าเป็น ชาติอินเดีย ครับ

๑๔. คู่กำลังดาว.....มีกำลังเป็น ๖ ( พระอาทิตย์สร้างขึ้นมาจากราชสีห์ ๖ ตัว )

๑๕. ดาวคู่มิตร.....เป็นคู่มิตรกับดาวพฤหัสบดี ๕ ( อาทิตย์ ๑ เป็นมิตรกับครู ๕ ดาวพฤหัส ตามอำนาจของดาวชาติเวรเดิมตามประวัติที่มีมา )

๑๖. ดาวคู่ธาตุ.....เป็นคู่ธาตุกับดาวเสาร์ ๗ เพราะเป็นธาตุไฟด้วยกันทั้งคู่ เพียงแตกต่างกันที่อาทิตย์ ๑ เป็นธาตุไฟบรรลัยกัลป์ เสาร์ ๗ เป็นธาตุไฟสุมขอน

๑๗. ดาวคู่สมพล.....เป็นคู่สมพลกับดาวศุกร์ ๖ เพราะดาวอาทิตย์ ๑ มีกำลังเท่ากับ ๖ ส่วนดาวศุกร์ ๖ มีกำลังเท่ากับ ๒๑ รวมกำลังดาวกันแล้วได้ ๒๗ พอดี ( ดาวคู่ใดที่สามารถนำกำลังของตนมาบวกกันได้เท่ากับ ๒๗ ดาวคู่นั้นจะนับว่าเป็นคู่สมพลครับ )

๑๘. ดาวคู่ศัตรู.....เป็นคู่ศัตรูกับดาวอังคาร ๓ ตามดวงดาวคู่ชาติเวรที่มีเล่ากันมาตั้งแต่โบราณว่าเป็นคู่ศัตรูกันในเชิงชิงรักหักสวาทกัน และกันครับ

๑๙. ภาวะ.....เป็นดาวบาปพระเคราะห์ ( บาป คือ บาปะ แปลว่าความชั่วร้าย ความเลว สังเกตได้จากเลข ต้องเป็นเลข คี่ ยกเว้นดาวราหู ๘ ตัวเดียวครับ )

๒๐. ปางพระประจำวัน.....เป็นปางถวายเนตร

๒๑. ตัวเลข หรือเบอร์.....เลขประจำคือ เลข ๑ , ๑๐ , ๑๙ , ๒๘ , ๓๗ , ๔๖ , ๕๕ , ๖๔ , ๗๓ , ๘๒ , ๙๑ , ๑๐๐ , ๑๐๙ , ๑๑๘ , ๑๒๗ เป็นต้น... ( เพราะเมื่อรวมค่าตัวเลขให้เหลือตัวเดียวจะได้ค่าเท่ากับ ๑ ครับ )

๒๒. ตัวบุคคล.....ในเมื่อได้ทราบถึงลักษณะของอาชีพการงาน และงานของดาวอาทิตย์แล้ว สำหรับเรื่องของบุคคลนี้ก็เกี่ยวเนื่องกันและกันนั้นเองครับ คือตัวบุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นคนที่มีเกียรติ เป็นบุคคลที่สูงเด่นเต็มไปด้วยอำนาจและบารมี เป็นตัวบุคคลที่อยู่ในวงการราชการครับ เป็นนายคน เป็นหัวหน้าคน เป็นเจ้าของกิจการห้างร้าน พระราชา กษัตริย์ พระเจ้าแผ่นดิน นายกรัฐมนตรี นายจ้าง ( เป็นเพศพ่อ หรือสามี )

๒๓. สถานที่.....เป็นสถานที่ ที่โอ่อ่าหรูหรามีแสงมีเสียง หรือสถานที่ ที่เป็นแหล่งพลังงาน สถานที่ราชการ สถานที่ของบุคคลระดับสูงเขาอยู่กัน เช่น...สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( ก.พ. ) ที่ว่าการของกระทรวงต่าง ๆ รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล ศาลาว่าการกรุงเทพฯ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ พระราชวัง พระราชฐาน พระตำหนัก องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. ) องค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต. ) กรมการปกครอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ. )การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ. ) โรงไฟฟ้า กรมราชองรักษ์ ที่ทำการของกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน กรมทหารรักษาพระองค์

๒๔. รูปร่าง.....มีรูปร่างสันทัด ไม่อ้วน ไม่ผอม ผิวเนื้อดำแดง

๒๕. อัญมณี.....ได้แก่ พลอย จินดาที่มีสีประกายแดง เช่น..ทับทิม พลอยแดง อาภรณ์ก็ต้องเป็นสีแดงไปด้วย เช่น..เสื้อแดง กางเกงแดง หมวกสีแดง ผ้าพันคอสีแดง รองเท้าสีแดง เป็นต้น..ครับ

๒๖. รสชาติ.....รสเผ็ดร้อนแรง รสจัด หนักไปทางรสเผ็ด และร้อนด้วยครับ ( มากไปด้วยเครื่องเทศครับ )

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กำลังดาวพระเคราะห์

กำลังดาวพระเคราะห์

๓ พระอังคารเล็ก_____หมายถึง อุบัติเหตุ ผ่าตัด ทะเลาะวิวาท มีคดีความ ถูกจับกุมคุมขัง ต่อสู้ปราบปราม
๔ พระพุธเล็ก_______หมายถึง เอกสาร ข่าวสาร การพูด การเจรจา เชื่อง่าย หูเบา (ถ้าชนเสีย จะถูกหลอกลวง)

๕ พระพฤหัสบดีเล็ก _____หมายถึง การศึกษาการศาสนา ความยุติธรรม ศีลธรรม การบุญการกุศล โครงการระยะสั้น

๖ กำลังพระอาทิตย์ _____หมายถึง ราชการ เกียรติยศ ชื่อเสียง ความทะเยอทะยาน ทิษฐิมานะ

๗ พระเสาร์เล็ก _____หมายถึง โทษทุกข์ ระทมขมขื่น เกิดคดีความ อุบัติเหตุ ของเก่า ของสกปรกรกรุงรัง

๘ กำลังพระอังคาร______หมายถึง การต่อสู้ อุบัติเหตุ แตกหัก ผ่าตัด มีคดีความ ขึ้นโรงขึ้นศาล

๙ พระเกตุ _____หมายถึง นามธรรม จิตวิญญาณ สิ่งลี้ลับ สมาธิภาวนา โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ ญาณหยั่งรู้ ได้เสียไม่คาดคิด

๑๐ กำลังพระเสาร์ _____หมายถึง โทษทุกข์ รอคอย ระทมขมขื่น เกิดอุบัติเหตุ คดีความ เรื่องเก่าๆ สกปรกรกรุงรัง

๑๑ ราชาโชค _____หมายถึง การได้มาแบบง่ายๆ ได้เป็นคู่ ได้แล้วได้อีก (ถ้าชนเสียก็เสียเป็นคู่ หรือ เสียแล้วเสียอีก )

๑๒ กำลังพระราหู_____หมายถึง มัวเมา ลุ่มหลง นักเลง ของผิดกฎหมาย ศีลธรรม ประเพณี

๑๓ มหาอุจจ์_____หมายถึง พื้นดวงถือมั่นคงสูงส่งในหน้าที่การงานแต่ถ้าในการดูจร จะทำให้คุณมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ อาชีพใหม่ หักเห ผลิกผัน ถ้าชนเสีย ผ่าตัด ปากเสียง แตกแยก มีคดีความ

๑๔ จักรพรรดิ์_____หมายถึง การต่อสู้ทุกรูปแบบ มีทรัพย์ ชื่อเสียงเกียรติยศ จะประสบความสำเร็จ ได้ด้วยการกระทำของตนเอง ต้องต่อสู้จึงจะได้มา แต่ถ้าชนเสีย จะเหนื่อยเป็นพิเศษ จะพบกับอุปสรรค ศัตรูคู่แข่ง
มักจะมีกรณีพิพาทฟ้องร้อง คดีความ แต่กว่าจะผ่านไปได้ก็แทบตาย

๑๕ กำลังพระจันทร์ _____หมายถึง ความมีเสน่ห์ การบริการ ยานพาหนะ การต่างประเทศ เกี่ยวกับน้ำ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กๆ หรือ สตรี จริตมารยา

๑๖ โสฬสมงคล _____หมายถึง คุณจะได้อะไรมาง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนลงแรง เรียกว่าราชรถมาเกย หรือส้มหล่นก็ได้ มีโชคลาภ จะได้มรดกตกทอด

๑๗ กำลังพระพุธ_____หมายถึง การค้าขาย การเจรจาติดต่อประสานงาน การสื่อสารทุกชนิด งานที่เกี่ยวกับการประกัน สิ่งพิมพ์ คอมพิวเตอร์ สัตว์เลี้ยง ของกิน เสื้อผ้า

๑๘ มหาจักรพรรดิ์_____หมายถึง การต่อสู้ ใช้อำนาจอย่างรุนแรง ต้องสู้ เหน็ดเหนื่อย ได้อะไรมาต้องเหนื่อย ต้องต่อสู้จึงจะได้มา แต่ถ้าชนเสีย จะมีกรณีพิพาทฟ้องร้อง คดีความ กว่าจะผ่านไปได้ก็แทบตาย

๑๙ กำลังพระพฤหัสบดี______หมายถึง การเรียน การศาสนา การศึกษา ความยุติธรรม โครงการระยะยาว
๒๐ พระเสาร์กำลังสอง _____หมายถึง โทษทุกข์แสนสาหัส คดีความ เจ็บป่วย พลัดพรากจากที่อยู่

๒๑ กำลังพระศุกร์_____หมายถึง การเงิน ศิลป ของสวยงาม ของสำเร็จรูป การบันเทิงเริงรมย์ทุกชนิด

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การตั้งดวง เลข 7 ตัว 9 ฐาน

เริ่มที่วันเกิด ก่อนเลยครับ ซึ่งวันก็มี 7 วันใน 1 สัปดาห์ ครับ
วันอาทิตย์ แทนด้วยเลข 1
วันจันทร์ แทนด้วยเลข 2
วันอังคาร แทนด้วยเลข 3
วันพุธ แทนด้วยเลข 4
วันพฤหัส แทนด้วยเลข 5
วันศุกร์ แทนด้วยเลข 6
วันเสาร์ แทนด้วยเลข 7

บางคนมีคำถามว่า เกิดวันพุธ แล้ว พุธกลางวัน กับพุธกลางคืน
ใช้เลข 4 เหมือนกันมั๊ยครับ
คำตอบคือ ใช่ครับ ใช้ 4 เหมือนกันครับ
แต่เวลาพยากรณ์ เราจะออกคำพยากรณ์ลักษณะเจ้าชะตาต่างกันออกไป
หัวใจสำคัญของการหาดาวแทนวันเกิด ก็คือเรื่อง เวลาเกิด
เพราะถ้าเกิด ช่วงเวลา 00.01 - 05.59 น. เรายังถือเป็นคนเกิดวันเก่าอยู่นะครับ
พื้นฐานตรงนี้ ตกม้าตายมาหลายคนแล้วครับ ตั้งผิดวันก็ทายผิดนะครับ
ขอยก ตัวอย่างประกอบนะครับ

เกิด วันที่ 3 มกราคม 2552 เวลา 05.00น. ต้องตั้งฐานวันเกิด อย่างไร
พอเปิดปฏิทินดู วันที่ 3 มค. 2552 ตรงกับวันเสาร์ ครับ
หลายคนจะบอกอย่างนั้น แต่อย่าลืมหัวใจสำคัญของวันเกิดครับ
เจ้าชะตาเกิดเวลา 05.00 น.นะครับ เพราะฉะนั้นต้องถือว่าเป็นวันเก่า
นั่นก็คือ คนวันศุกร์ครับ
เราก็จะตั้งฐานวันเกิด ได้ดังนี้
6....7....1....2.....3....4....5
สรุป
เกิดวันอาทิตย์ ตั้ง 1....2.....3....4....5....6....7
เกิดวันจันทร์ ตั้ง 2.....3....4....5....6....7....1
เกิดวันอังคาร ตั้ง 3....4....5....6....7....1.....2
เกิดวันพุธ ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
เกิดวันพฤหัส ตั้ง 5....6....7....1....2.....3....4
เกิดวันศุกร์ ตั้ง 6....7....1....2.....3....4....5
เกิดวันเสาร์ ตั้ง 7....1....2.....3....4....5....6

ต่อไปเป็น ฐานที่ 2 ฐานเดือนเกิดนะครับ
ฐานเดือน ง่ายหน่อย ไม่สับซ้อนครับ เอาวันเดือนปีเกิด
ไปเทียบปฏิทินโหรได้เลยครับ ถ้าตรงกับ
เดือน ๑ หรือ เดือน ๘ ก็ตั้ง 1....2.....3....4....5....6....7
เดือน ๒ หรือ เดือน ๙ ก็ตั้ง 2.....3....4....5....6....7....1
เดือน ๓ หรือ เดือน ๑๐ ก็ตั้ง 3....4....5....6....7....1.....2
เดือน ๔ หรือ เดือน ๑๑ ก็ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
เดือน ๕ หรือ เดือน ๑๒ ก็ตั้ง 5....6....7....1....2.....3....4
เดือน ๖ ก็ตั้ง 6....7....1....2.....3....4....5
เดือน ๗ ก็ตั้ง 7....1....2.....3....4....5....6

หัวใจของฐานเดือน คือ ต้องเทียบปฏิทินโหรเป็นเดือนทางจันทรคติ
เท่านั้นนะครับ ถ้าไม่เทียบหาก็ผิดไปเลยครับ

ฐานที่ 3 ครับ ฐานปีครับ
เราก็เอาวันเดือนปีเกิดไปเทียบกับ ปฏิทินโหร เหมือนเดิมครับ
ก็จะทราบว่า เป็นปีนักกษัตรใด เช่น ชวด ฉลู....จอ กุน
หัวใจของฐานปีก็คือ ปีนักกษัตร จะเปลี่ยนเมื่อ
วันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ เสมอ
จากตัวอย่าง เจ้าชะตาเกิด วันที่ 3 มกราคม 2552 เวลา 05.00น.
คนเรียนใหม่ๆ ไม่มีหลักตรงนี้ จะตอบทันทีว่า ปีฉลู ครับ
พอเอาไปตั้งดวง ทายเปรี้ยงออกไป ตกม้าตายเลยครับ
เพราะอะไรครับ เพราะวันที่ 3 มกราคม 2552 เวลา 05.00น.
ตรงกับวันทางจันทรคติคือ วันศุกร์ ขึ้น๗ค่ำ เดือน ๒ ปีชวด ครับ
หลายท่านร้อง อ้าว ทำไมหละ
ก็กฎมันมีอยู่ว่า ปีนักกษัตร จะเปลี่ยนเมื่อขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ไง
แล้วเจ้าชะตาเกิด ขึ้น๗ค่ำ เดือน ๒ ซึ่งยังไม่ถึง ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕
ดังนั้นเจ้าชะตาก็ยังเป็นคนเกิดปีนักกษัตร ชอ วอ ดอ ชวด ครับ

การตั้งฐานที่ 3 ฐานปี มีดังนี้
ปีชวด หรือ ปี มะแม ก็ตั้ง 1....2.....3....4....5....6....7
ปีฉลู หรือ ปีวอก ก็ตั้ง 2.....3....4....5....6....7....1
ปีขาล หรือ ปีระกา ก็ตั้ง 3....4....5....6....7....1.....2
ปีเถาะ หรือ ปีจอ ก็ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
ปีมะโรง หรือ ปีกุน ก็ตั้ง 5....6....7....1....2.....3....4
ปีมะเส็ง ก็ตั้ง 6....7....1....2.....3....4....5
ปีมะเมีย ก็ตั้ง 7....1....2.....3....4....5....6

ขอทบทวนนิดนึงนะครับ
เราตั้งไป 3 ฐานแล้วนะครับ คือ
ฐานที่ ๑ ฐานวันเกิด
ฐานที่ ๒ ฐานเดือนเกิด
ฐานที่๓ ฐานปีเกิด
อย่าลืมนะครับ ทบทวนหลักเกณฑ์และหัวใจ ของ การตั้งดวง
ทั้ง ๓ ฐาน ให้เข้าใจถ่องแท้และแม่นยำเสียก่อน เพื่อที่จะได้
ไม่พลาดท่าให้เสียที ตั้งดวงผิดอีกครับ
ทีนี้ผมจะขออธิบายต่อนะครับ

ฐานต่อไปคือฐานที่ ๔
ฐานที่๔ เรียกว่า ฐานบวก หรือเรียกว่า ฐานกำลังพระเคราะห์ครับ
ฐานนี้เป็นฐานที่มีความสำคัญมากที่สุด อย่างที่ อ.บอล
ท่านบอกไว้นั่นแหละครับ เพราะฐานนี้บอกถึงความดี หรือ ร้าย ของ
ดาวแต่ละดวง ภพ หรือ เรื่องราว แต่ละเรื่อง
วัดกันด้วยฐานบวกนี้ ก็ อ่านดวงชะตาไปได้ 70 - 80 % แล้วครับ

วิธีการหาฐานบวก
1 หาได้จากการเอา เลขดาวทั้ง ๓ ฐาน คือ ฐานวันเกิด + ฐานเดือนเกิด
+ ฐานปีเกิด เข้าด้วยกันตามแนวดิ่ง
2 ผลลัพธ์ที่ได้ ให้เขียนไว้เต็มตามจำนวนที่บวกรวมได้ ไม่ต้องหักลบใดๆ
3 ให้ขีดเส้นกั้นแบ่งระหว่างฐานที่ ๓ กับ ฐานที่๔ นี้ให้เด่นชัด
เพื่อที่จะได้สังเกตุได้ชัดเจน

เอาหละครับ ผมจะขออนุญาต ตั้งดวง ตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนนะครับ
เจ้าชะตาเป็น ญ เกิด วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2520 เวลา 22.49น.
เมื่อไปเปิดปฏิทินโหรดูก็จะรู้ว่า เจ้าชะตาเกิดวันเสาร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 4
ปีมะโรง
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง 7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง 4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง 5....6....7....1....2....3....4
---------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก 16...12...15...11...7...10...13
---------------------------------
ไหนๆ ก็ไหนๆ นะครับ
เอามันให้ครบ 9 ฐาน ของวิชาพ่อเจษฯไปเลยนะครับ

ถ้าอย่างนั้นมาต่อ ฐานที่ ๕ กันครับ
หลักการหา ฐานที่๕ หาได้จาก
1 นำเอาฐานที่ ๔ มาคำนวนหาครับ
ถ้าฐานที่๔ เกิน 7 ให้ลบด้วย 7 จนเหลือ เลข 1-7 ครับ
หากเป็นเลข 1-7 อยู่แล้วไม่ต้องนำ 7 ไปลบนะครับ
2 จากนั้นนำเลขที่คำนวนได้แล้วไปใส่ ลงในฐานที่๕ ได้เลย
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๔ ฐานบวก 16...12...15...11...7...10...13
-------------------------------------------------
เกิน7 เอา7ลบออก
-7 .............9......5.....8....4....7.....3.....6
-7 .............2......5.....1....4....7.....3.....6
สรุปว่า
ฐ๕............ 2.....5.....1.....4...7....3.....6
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๕ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
--------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
--------------------------------------------------
ฐ๕..................... 2.....5.....1.....4...7....3.....6

หลักการหา ฐานที่ ๖ หาได้จาก
1 นำเอาฐานที่ ๕ มาคำนวนหาครับโดย
เอาดาวในฐานที่ ๕ คูณด้วย 2 ได้เท่าใด
ถ้าผลลัพท์ที่ได้เกิน 7 ให้ลบด้วย 7 จนเหลือ เลข 1-7 ครับ
หากเป็นเลข 1-7 อยู่แล้วไม่ต้องนำ 7 ไปลบนะครับ
2 จากนั้นนำเลขที่คำนวนได้แล้วไปใส่ ลงในฐานที่๖ ได้เลย
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๕............ 2.....5.....1.....4...7....3.....6
-------------------------------------------------
เอา 2 คูณ
จะได้..........4.....10....2.....8....14...6...12
-7 .............4......3.....2.....1....7.....6.....5
สรุปว่า
ฐ๖............ 4......3.....2.....1....7.....6.....5
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๖ ฐานดังนี้

ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------
ฐ๕..................... 2.....5.....1.....4...7....3.....6
ฐ๖......................4.....3.....2.....1....7.....6....5

หลักการหา ฐานที่ ๗ หาได้จาก
1 นำเอาฐานที่ ๖ มาคำนวนหาครับโดย
เอาดาวในฐานที่ ๖ คูณด้วย 2 ได้เท่าใด
ถ้าผลลัพท์ที่ได้เกิน 7 ให้ลบด้วย 7 จนเหลือ เลข 1-7 ครับ
หากเป็นเลข 1-7 อยู่แล้วไม่ต้องนำ 7 ไปลบนะครับ
2 จากนั้นนำเลขที่คำนวนได้แล้วไปใส่ ลงในฐานที่๗ ได้เลย
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๖............ 4......3.....2.....1....7.....6.....5
-------------------------------------------------
เอา 2 คูณ
จะได้..........8......6.....4.....2....14...12...10
-7 .............1......6.....4.....2....7.....5.....3
สรุปว่า
ฐ๗............ 1......6.....4.....2....7.....5.....3
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๗ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๖.....................4.....3.....2.....1....7.....6....5
ฐ๗....................1......6.....4.....2....7.....5.....3

หลักการหา ฐานที่ ๘ หาได้จาก
1 นำเอาเลขตัวแรกของฐานที่ ๕ ยกมาตั้งเป็นตัวแรกของฐานที๘
2 จากนั้นก็เดินยามกลางวันต่อไปจนครบ 7 หลักครับ
(ยามกลางวัน เรียงตัวดังนี้ 1......6.....4.....2....7.....5.....3 )
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
เราก็จะได้หน้าตาของ ฐานที่ ๘ ดังนี้
ฐ๘ ................... 2....7.....5.....3.....1......6.....4
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๘ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๖.....................4.....3.....2.....1....7.....6....5
ฐ๗....................1......6.....4.....2....7.....5.....3
----------------------------------------------------
ฐ๘ ...................2.....7.....5.....3.....1.....6.....4

หลักการหา ฐานที่ ๙ หาได้จาก
1 นำเอาเลขตัวสุดท้ายของฐานที่ ๕ มาบวกกับเลขตัวสุดท้าย
ของฐานที่ ๘
2 จากนั้นถ้าผลลัพท์ที่ได้ เกิน 7 ก็เอา 7 ลบออกให้เหลือ 1-7
เท่านั้นครับ
3 ให้นำ ผลลัพท์ที่ได้ มาตั้งในตำแหน่งสุดท้ายของฐานที่ ๙ ครับ
4 จากนั้นให้ เดินยามกลางวันย้อนกลับ แล้วตั้งจาก ทางขวาไปทางซ้าย
ต่อไปจนครบ 7 หลักครับ
(ยามกลางวันย้อนกลับ เรียงตัวดังนี้ 3......5.....7.....2....4.....6.....1 )
จากต.ย. ผมจะแสดงการคำนวนให้ดู ดังนี้นะครับ
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๘ ................... 2....7.....5.....3.....1......6.....4
จะได้ 6+4=10
เอา 10-7=3
เราก็จะได้หน้าตาของ ฐานที่ ๙ ดังนี้
ฐ๙ ...................5.....7.....2.....4.....6.....1.....3
เพราะฉะนั้น เราก็จะได้หน้าตาดวงเจ้าชะตาเพิ่มมาเป็น ๙ ฐานดังนี้
ฐ๑ เกิดวันเสาร์ ตั้ง ..7....1....2....3....4....5....6
ฐ๒ เกิดเดือน4 ตั้ง ..4....5....6....7....1....2.....3
ฐ๓ เกิดปีมะโรง ตั้ง .5....6....7....1....2....3....4
----------------------------------------------------------------
ฐ๔ ฐานบวก ........16...12...15...11...7...10...13
----------------------------------------------------------------
ฐ๕.....................2.....5.....1.....4...7.....3.....6
ฐ๖.....................4.....3.....2.....1....7.....6....5
ฐ๗....................1......6.....4.....2....7.....5.....3
----------------------------------------------------------------
ฐ๘ ...................2.....7.....5.....3.....1.....6.....4
ฐ๙ ...................5.....7.....2.....4.....6.....1.....3
----------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การทายปาก ใจ ที่นั่ง

หลักพื้นฐาน นั้นใช้ดาวเป็นหลัก แต่เวลาออกคำทำนาย ต้องพิจารณาด้วยว่าดาวนั้น ไปชนอะไรบ้าง
บางที ดาวดีครับ แต่ชนเสีย มันก็เลยดี แบบเสียๆ เอ๊ะมันเป็นยังไง ดี แบบเสียๆ ก็เป็นยังงั้นแหละครับ
ปากหวานพูดมีเหตุมีผล แต่เดี๋ยวก็วก ไปเรื่องไม่เหมาะ บางทีก็นินทา ลามกอะไรแบบนั้น อันนี้ก็ต้องพิจารณาให้ดีก่อน

การทายปาก ให้ดูที่ ภพ ปิตา ว่าเป็นเลขอะไร

เลข 1 พูดจริงทำจริง พูดรุนแรง แต่ก็มีเหตุผล
เลข 2 พูดนิ่มนวล ใครฟังก็ชอบ แต่ติดจะขยายความ แบบว่า มี 10 บอกมี 100
เลข 3 มักพูดคำด่าคำ พูดรุนแรง
เลข 4 ช่างเจรจา พูดจาคล่องแคล่ว
เลข 5 พูดจามีเหตมีผล เป็นที่เชื่อถือ
เลข 6 พูดจาไพเราะ เป็นที่เชื่อถือ
เลข 7 พูดตรงไปตรงมา เวลาโกรธมักโวยวาย

การทายใจ ให้ดูที่ภพพันธุ

เลข 1 เป็นคนใจร้อน รักจริงเกลียดจริง
เลข 2 อ่อนไหว รักง่ายหน่ายเร็ว
เลข 3 ใจนักเลง เอาแต่อารมณ์
เลข 4 ใจคอสุภาพ เมตตาคนและสัตว์ โกรธยาก หายช้า เปลี่ยนแปลงง่าย ปรวนแปร
เลข 5 ใจดีเที่ยงธรรม ชอบความยุติธรรม
เลข 6 รักสวยรักงาม สนุกรื่นเริง
เลข 7 หนักแน่นไม่กลังใคร ใครทำเจ็บแล้วลืมยาก

ทายที่นั่ง ดูภพลาภะ

เลข 1 มักอยู่ไม่ติดที่ ย้ายที่บ่อยๆ ชอบท่องเที่ยวไกล ๆ
เลข 2 เจ้าชู้ รักไม่แน่นอน
เลข 3 อยู่ไม่สุข ชอบทำอะไรเรื่อยๆ อยู่ไหนไม่นาน มักชอบโยกย้าย
เลข 4 อยู่ที่ใดก็ไม่ประสพความยุ่งยาก ทั้งที่อยู่และความรัก
เลข 5 อยู่ที่ใดก็ไม่ประสพความยุ่งยาก ทั้งที่อยู่และความรัก
เลข 6 อยู่ที่ไหน ก็สนุกที่นั่น
เลข 7 อยู่ไหนไม่นาน ชอบย้ายที่อยู่

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การตั้งดวงโดยใช้ยามอัฐกาล

ดวงยามนี้ ได้ทดลองใช้แล้วเข้าท่าดีเหมือนกัน จึงเก็บไว้ในบล็อก เพื่อเตือนความจำ วิธีคิดก็ ไม่ยากใช้ยามอัฐกาลเป็นหลัก

อัตตะ-ใช้วันปัจจุบัน จ-อ

ตนุ-ใช้ ยาม 90 นาที

มรณะ-ใช้ ยามซอย 11.15 จากยาม 90 นาที

20/8/2552

ตรงกับ พฤหัสบดี แรม 14 ค่ำ เดือน 9 ปีฉลู เวลา 12.48.50 ผูกดวงได้

5-4-3 วัน-ยาม 90-ยาม 11.15

5....6....7....1....2....3....4

4....5....6....7....1....2....3

3....4....5....6....7....1....2

-------------------------------------

12.15..18..14..10....6....9

-------------------------------------

ดวงยามแบบนี้ ผู้เขียนไม่วางลัคนา แต่อ่านจาก เรือนชะตาและ ดาว เลย

ดวงนี้มาให้ดู ผู้เขียน เห็นดาว 7 ทับ พันธุ และชน พยายะ จึง ถามว่า กำลังทุกข์ใจเรื่อง ในบ้าน และครอบครัว ใช่ไหม เจ้าตัวตอบว่าใช่ ไม่ถูกกับ แม่ผัวอยากย้ายบ้านอยู่ต่างหาก แต่แฟนเชื่อแม่ ไม่ยอมย้าย

ตนุ 4 ฐาน 15 สัมพันธ์ 2 มาตา-อริ-ทาสา บ่งบอกถึงมีปัญหากับผู้ใหญ่หญิง

การตั้งดวงโดยไม่ใช้เวลาเกิด

ใครเข้ามาอ่าน โปรดเข้าใจว่า ผู้เขียน เป็นเพียงผู้ชอบศาสตร์การพยากรณ์ ไม่ใช่มืออาชีพ หรือ คนเก่ง อะไรเลยครับ ข้อมูลนี้ อาจไม่ใช่ดีที่สุด แต่อยากแบ่งปันประสบการณ์ กับผู้ รักการ พยากรณ์เหมือนกันเท่านั้น

การตั้งดวง มีสามส่วนคือ

1. หาอัตตะ ใช้วัน ที่ถามตั้งเป็นตำแหน่งอัตตะ

2.หาตนุ ใช้ ยามอัฐกาล 90 นาที โดยเริ่มยามแรก จากวัน(อัตตะ)

3. หามรณะ ใช้ซอยยาม จากยามใหญ่ 90 นาที (ตนุ) เป็นยามละ 11.15 นาที แบ่งได้แปดยาม

เช่นวันนี้ วันที่ 9 ตุลาคม 2552 ตรงกับ วัน ศุกร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู เวลา 11.35 นาที

1. หาอัตตะ วันศุกร์ ใช้เลข 6 เป็นอัตตะ

2. หาตนุ ช่วง 11.35 เป็นยามที่ 4 ตกยามเสาร์ 7

3. หามรณะ ซอยยามจาก ตนุ 7 มีเศษ นาที 65 นาที ซอยยามละ 11.15 ตกยามที่ 6 ยามพุธ 4

ได้รหัสดวง 6/7/4 ตั้งดวงได้

6....7....1....2....3....4....5

7....1....2....3....4....5....6

4....5....6....7....1....2....3

-------------------------------------

17.13...9..12...8....11...14

-------------------------------------

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กรณีมีคนมาดูติด ๆ กันหลายคน ไม่จำเป็นต้องจับเวลาใหม่ แต่ใช้การเปลี่ยนยาม จากยามซอย 11.15 นาที ไปยามต่อ ๆ ไป ซึ้งยาม 11.15 คือ ตำแหน่ง มรณะนั่นเอง ในดวงตัวอย่างนี้ เป็นดาวพุธ 4 ใช้ดูคนแรก ส่วนคนต่อ ๆ ไป เปลี่ยนยามไปเรื่อย

เมื่อดูคนแรกเสร็จแล้ว คนที่สองใช้ยามต่อไป จาก 4 ไป 2 ใช้ 2 วางมรณะ

คนที่สาม จาก 2 ไป 7 ใช้ 7 วางมรณะ

ทำแบบนี้เรื่อยไป จนครบคนดู ส่วน ฐาน อัตตะ-ตนุ คงไว้

=====================================================ยามซอย 11.15 นาที จากยาม 90 นาที